วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ. ๙ ส.ค.๕๖

ตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ให้ สลก.ทบ. ส่งคำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ.ต่อสื่อมวลชน  เพื่อให้หน่วยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ ปชส.ในพื้นที่  และให้ ศทท.นำขึ้นเว็บไซ่ต์ ทบ.
 
พ.ท.หญิง ทักษดา สังขจันทร์
หน. แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก
โทร. 02-2977821

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เอกสารข่าว ทบ.

ทบ.ช่วยน้ำท่วมต่อเนื่อง เน้นพื้นที่วิกฤต จ.ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา ที่น้ำยังท่วมสูง     ส่งกำลังทหารพร้อมเครื่องมือบรรเทาภัยดูแลเต็มที่
 
จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๒๔ จังหวัด ซึ่ง กองทัพบกใช้กำลังทหารเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยใช้กำลังพล ๓๕ กองร้อย จำนวน ๕,๒๕๐ นาย, รถ ๒๒๓ คัน และเรือ ๑๓๕ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง        โดยในขณะนี้ในบางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย บางพื้นที่มีน้ำท่วมสูง ซึ่งกำลังทหารยังคงปฏิบัติตามแนวทางการบรรเทาสาธารณภัยทั้ง ๓ ขั้น ทั้งขั้นเตรียมการ, ขั้นปฏิบัติ และขั้นคลี่คลายสถานการณ์ 
ซึ่งขณะนี้ กรมการทหารช่าง ได้ส่งชุดสำรวจและประเมินสถานการณ์งานด้านการช่าง และงานด้านบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ใน ๖ จังหวัดแล้ว ซึ่งการปฏิบัติส่วนใหญ่  ยังอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง และพื้นที่รับน้ำที่สำคัญ อาทิ
จ.ปราจีนบุรี ในพื้นที่ อ.เมือง ทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ ยังคงสร้างและเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมรอบโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยวางแบริเออ สร้างแนวหินคลุก ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ พร้อมเฝ้าระวังตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถเปิดบริการประชาชนได้ตลอดเวลา รวมทั้งนำรถผลิตน้ำดื่ม และเครื่องผลิตน้ำประปาสนาม     ออกแจกจ่ายน้ำดื่ม น้ำใช้ ให้กับผู้ประสบอุทกภัยใน อ.บ้านสร้าง, ประจันตคาม, กบินทร์บุรี และใช้สะพานแบบ ๘๔ เอ วางแทนที่สะพาน บ.ทุ่งแฝด ชุมชนตลาดใหม่เทศบาลกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี ให้ประชาชนใช้สัญจรหลังคอสะพานขาดหลังน้ำท่วม นอกจากนี้นำแพริบบอน ตั้งเป็นจุดแจกจ่าย  น้ำดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค ยารักษาโรค ในพื้นที่น้ำลึกที่รถขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง ขณะนี้ตั้งอยู่ที่ 
ต.บางพลวง อ.บ้านสร้าง และ ต.กบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี
  สำหรับใน อ.ประจันตคาม กรมการทหารช่าง ได้นำรถโกยตักเข้าก่อสร้างแนวคันดินบนทางหลวงหมายเลข ๓๐๖๙ เพื่อป้องกันและชะลอการไหลของน้ำไม่ให้เข้าท่วมในพื้นที่สำคัญ และลดการกัดเซาะผิวถนน และยังคงใช้รถ และเรืออำนวยความสะดวก ด้านการสัญจรให้กับผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง
จ.ฉะเชิงเทรา กองทัพบกเข้าทำน้ำประปาบริการแก่ผู้อพยพ ในที่ศูนย์อพยพต.หัวไทร และประชาชนใกล้เคียง เนื่องจากน้ำท่วมทำให้ระบบประปาขัดข้อง และใช้แพริบบอนเป็นจุดแจกจ่ายน้ำดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค ยารักษาโรคในพื้นที่น้ำลึกที่รถขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง โดยขณะนี้ตั้งอยู่ อ.บางคล้า  นอกจากนี้ได้ส่งทหาร, เรือติดเครื่องยนต์ ออกแจกจ่ายน้ำดื่ม ถุงยังชีพ ให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง โดยเฉพาะ อ.ราชสาส์น
                                                                                                                                   ----------------------------  
                                                                                                                                                                         ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖

ข่าว สลก.ทบ. 14 ต.ค.56

ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑)
 กองทัพบกประกาศนโยบายปี ๒๕๕๗ ระบุจะเป็น “ปีแห่งการเตรียมความพร้อมของกองทัพบกไปสู่อนาคต” เพื่อให้เกิดความทันสมัยในทุกด้านควบคู่ไปกับเทคโนโลยี
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๒)
กองทัพบกเดินหน้าให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจกับกำลังพล เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานความมั่นคง เพื่อย้ำถึงจุดยืนของกองทัพบกที่ยึดถือว่า ทุกภารกิจจะดำเนินตามกรอบของกฎหมาย
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๓)
กองทัพบกยืนยันภารกิจแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะดำรงความต่อเนื่อง และทุ่มเทศักยภาพ ในการทำงานเชิงรุก เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และลดอันตราย  ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งดูแลครอบครัวของกำลังพลอย่างดีที่สุด  
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๔)
กองทัพบกส่งทหารช่าง สร้างและเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมรอบโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี  โดยวางแบริเออ สร้างแนวหินคลุก ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ    พร้อมเฝ้าระวังตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถเปิดบริการประชาชนได้ตลอดเวลา
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๕)
กองทัพบกนำสะพานแบบ ๘๔ เอ วางแทนที่สะพาน บ.ทุ่งแฝด ชุมชนตลาดใหม่เทศบาลกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้ประชาชนใช้สัญจรหลังคอสะพานขาดหลังน้ำท่วม
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๖)
กองทัพบกนำแพริบบอน ตั้งเป็นจุดแจกจ่ายน้ำดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค ยารักษาโรคในพื้นที่น้ำลึก รถขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง ขณะนี้อยู่ที่ ต.บางพลวง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๗)
กองทัพบกยังคงส่งทหารพร้อมเรือติดเครื่องยนต์ ออกแจกจ่ายน้ำดื่ม ถุงยังชีพ ให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูง  โดยเฉพาะ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา, อ.บ้านสร้าง และ       อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี 
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๘)
ผู้บัญชาการทหารบก กำชับหน่วยทหารปฏิบัติตาม ๓ ขั้น การช่วยเหลือภัยพิบัติ       ส่งทหารช่างเข้าสำรวจ และประเมินสถานการณ์ด้านการช่าง พร้อมเพิ่มเติมชุดบรรเทาภัยพิเศษ ลงใน      ๖ จังหวัด เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์น้ำ
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๙)
ขณะนี้กรมการทหารช่างนำรถผลิตน้ำดื่มและเครื่องผลิตน้ำประปาสนาม      ออกแจกจ่าย  น้ำดื่ม น้ำใช้ให้กับผู้ประสบอุทกภัยใน อ.บ้านสร้าง, ประจันตคาม, กบินทร์บุรี       จ.ปราจีนบุรี
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑๐)
กรมการทหารช่าง นำรถโกยตักเข้าก่อสร้างแนวคั้นดินบนทางหลวงหมายเลข ๓๐๖๙ เพื่อลดการกัดเซาะผิวถนน และใช้เป็นทางเดินสำรองให้กับประชาชนใน อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑๑)
ที่ศูนย์อพยพ ต.หัวไทร จ.ฉะเชิงเทรา  กองทัพบกเข้าทำน้ำประปาบริการแก่        ผู้อพยพในศูนย์ และประชาชนใกล้เคียง เนื่องจากน้ำท่วมทำให้ระบบประปาขัดข้อง
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑๒)
         ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำลดลงเหลือ ๑๐ เซนติเมตร ขณะที่ กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ เฝ้าติดตามระดับน้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนพระราม ๖ ต่อเนื่อง พร้อมช่วยประชาชนที่ อ.ท่าเรือ ขนย้ายสิ่งของกลับเข้าที่พักอาศัย
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑๓)
ที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง สถานการณ์น้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ กรมทหารราบที่ ๓๑ รักษาพระองค์ ส่งชุดแพทย์ตรวจรักษา พร้อมนำกำลังทหารเข้าทำความสะอาดที่พักอาศัย          ผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดแล้ว
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑๔)
ที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว  กองพันทหารราบที่ ๑ กรมทหารราบที่ ๑๒ รักษาพระองค์ ยังคงใช้รถและเรือ รับ - ส่งประชาชน ขนย้ายสิ่งของ แจกจ่ายถุงยังชีพ และกำจัดเศษวัชพืชที่กีดขวาง  ทางน้ำ
…………………………………..          
      ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๖

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เอกสารข่าว ทบ.8ต.ค.56

ผบ.ทบ. สั่งหน่วยทหารสำรวจ และเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ ในพื้นที่เสี่ยง  ริมแม่น้ำสำคัญ ย้ำความปลอดภัยในการใช้รถ - เรือ รับ - ส่งประชาชน
 
              สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต หลายฝ่ายมุ่งเตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง และการระบายน้ำจากเขื่อนสำคัญ ซึ่งหน่วยทหารของกองทัพบกในแต่ละพื้นที่ ยังคงเข้าช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วมขัง น้ำไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำลังพลจากกองร้อยเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชน ๓๕ กองร้อย กำลังพล ๕,๒๕๐ นาย รถยนต์บรรทุก ๒๒๓ คัน  เรือ ๑๓๓ ลำ เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของ การสัญจร แจกจ่ายถุงยังชีพ สร้างและเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ  ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก  มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะการเตรียมรับกับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ซึ่งบางพื้นที่ได้มีการสร้างพนังกั้นน้ำไว้แล้ว      ได้กำชับให้หน่วยทหารสำรวจพื้นที่รับผิดชอบ และสำรวจพนังกั้นน้ำต่างๆ ที่ได้ดำเนินการร่วมกับ ทุกภาคส่วน ให้มีสภาพแข็งแรงสามารถรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นได้อย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันได้สั่งการให้นำเรือติดเครื่องยนต์จากกรมการขนส่งทหารบก เข้าสนับสนุนการรับ  ส่งประชาชน    ในพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการสัญจร พร้อมกำชับให้กำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง และดูแลความปลอดภัยของประชาชนและตนเอง ในระหว่างการโดยสารยานพาหนะ
             สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร การประสานงานกับชุมชนริมน้ำ และสำนักงานเขต      ในพื้นที่เสี่ยงที่น้ำเจ้าพระยาอาจล้นตลิ่งนั้น ขณะนี้หน่วยทหารของกองทัพบกได้บูรณาการร่วมกัน และทั้งการก่อสร้างพนังกั้นน้ำในชุมชน การก่อสร้างสะพานไม้ทางเดินชั่วคราว การซ้อมขนย้ายสิ่งของ การจัดชุดประเมินสถานการณ์ ออกตรวจสอบระดับน้ำทุกวันใน ๒ ห้วงเวลา  โดยมีหน่วยดูแลในพื้นที่สำคัญอาทิ มณฑลทหารบกที่ ๑๑ เตรียมพร้อมดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก จังหวัดปทุมธานี  สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก มีหน่วยบัญชาการป้องกันภัย     ทางอากาศกองทัพบก, กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ และกองพลที่ ๑ รักษาพระองค์        เข้าเตรียมความพร้อมร่วมกับทุกภาคส่วนแล้ว  โดยเฉพาะในเขตบางพลัด, บางซื่อ, ดุสิต, พระนคร และ  สัมพันธวงศ์  กองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ ได้นำกระสอบทรายทำเป็นพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำ,   สร้างสะพานไม้ใช้สัญจรชั่วคราวในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และจัดชุดลาดตระเวนตรวจสอบระดับน้ำ  
            จ.ราชบุรี จากเหตุน้ำป่าไหลหลากที่ อ.สวนผึ้ง ทำให้คอสะพานที่เชื่อมระหว่าง บ.ทุ่งแฝก – ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง พังทลาย ประชาชนไม่สามารถใช้สัญจรได้ กรมการทหารช่างส่งทหารพร้อมเครื่องมือช่างเข้าสำรวจความเสียหาย พร้อมติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นให้ประชาชนได้ใช้สัญจรชั่วคราวแล้ว โดยยังคงทหาร ๑๕ นายติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  ส่วนที่ อ.เมือง น้ำในแม่น้ำแม่กลองเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตรใน ต.คุ้งกระถิน และ ต.คุ้งน้ำวน แต่ยังไม่มีผลกระทบกับบ้านเรือนประชาชน  ซึ่งกรมการทหารช่างยังคงวัดระดับน้ำในแม่น้ำ และติดตามสถานการณ์
อย่างใกล้ชิด
            จ.ประจวบคีรีขันธ์ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมสะพานเชื่อมระหว่าง ม.๒ และ ม.๓ หมู่บ้านป่าละอูน้อย ต.ป่าละอู อ.หัวหิน ระดับน้ำสูงจากสะพาน 
๑.๕ – ๒ เมตร ประชาชนไม่สามารถสัญจร และเข้า – ออกจากหมู่บ้านได้  ซึ่งศูนย์การทหารราบ ได้เข้าช่วยอพยพประชาชนมาตั้งแต่ ๗ ตุลาคม ๕๖
              ล่าสุด ในวันนี้ได้ส่งทหาร ๑๕๐ นาย พร้อมกองพันนักเรียนการจู่โจมและส่งทางอากาศ ๓๐ นาย ใช้เรือเข้าอพยพประชาชน ๗๐ ครัวเรือน ที่ติดอยู่ภายใน ม.๓ ออกมาพักชั่วคราวในศูนย์  พักพิงบริเวณโรงเรียนป่าละอู ซึ่งขณะนี้มีประชาชนและนักเรียนเข้าพักแล้ว ๓๐ คน  นอกจากนี้ได้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่จาก รพ.ค่ายธนะรัชต์ ๓๐ นาย ตรวจสุขภาพและแจกจ่ายเครื่องอุโภค บริโภคให้กับผู้ประสบภัย ส่วนที่เทศบาลเมืองหัวหิน น้ำท่วมคลี่คลายประชาชนกลับใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว
              จ.สระแก้ว น้ำยังคงเข้าท่วมใน ๙ อำเภอ ส่งผลกระทบกับประชาชน ถนน และสาธารณูปโภค ซึ่งในหลายเส้นทางถูกตัดขาด  กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ ยังคงเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง  โดยที่ อ.อรัญประเทศ ระดับน้ำท่วมสูง ๖๐ – ๘๐ เซนติเมตร ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน กว่า ๕,๐๐๐ ครัวเรือน ซึ่งกำลังทหาร ๓๐๐ นาย ยังคงเข้าช่วยกรอกกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำ เพื่อป้องกันบ้านเรือนประชาชน อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และแจกจ่ายถุงยังชีพ  สำหรับ อ.เมือง อ.วัฒนานคร และ อ.เขาฉกรรจ์ ระดับน้ำสูง๖๐ เซนติเมตร 
ยังคงกำจัดเศษวัชพืชเพื่อเปิดทางน้ำไหล พร้อมเพิ่มความแข็งแรงของกระสอบทรายในเขตชุมชน เข้าแจกจ่ายถุงยังชีพ และบริการ รับ- ส่งประชาชน เพื่อความสะดวกในการสัญจร
               จ.บุรีรัมย์ ที่ อ.นางรอง ระดับน้ำท่วมอยู่ที่ ๐.๕ – ๑ เมตร มีแนวโน้มสูงขึ้น ในขณะที่จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และกองพันทหารราบที่ ๔ กรมทหารราบที่ ๒๓  ส่งทหาร ๑๐๐ นาย     
 เร่งช่วยประชาชนข้นย้ายสิ่งของ และสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัยอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร พร้อมประสานกับส่วนราชการติดตามและช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง  
                                                                                                                         ----------------------------        
                                                                                                                                                                           ๘ ตุลาคม ๒๕๕๖

คำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ. ๒๔ ก.ย.๕๖

ตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ให้ สลก.ทบ. ส่งคำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ. ต่อสื่อมวลชน  เพื่อให้หน่วยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ ปชส.ในพื้นที่  และให้ ศทท. นำขึ้นเว็บไซต์ ทบ.
 
พ.ท.หญิง ทักษดา สังขจันทร์
หน. แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก
โทร. 02-2977821

วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เอกสารข่าว ทบ.7ต.ค.56

ทบ. มอบหน่วยทหารในพื้นที่ กทม. เข้าช่วยชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา ที่เสี่ยงต่อภาวะ   น้ำล้นตลิ่ง พร้อมประสานกับสำนักงานเขตอย่างใกล้ชิด
 
               สถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ ยังคงอยู่ใน ๒๘ จังหวัด เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะใน จ.สระแก้ว, จ.ปราจีนบุรี, จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งกองทัพบกยังคงกำลังทหาร ๓๕ กองร้อยเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชน จำนวน ๕,๒๕๐ นาย รถยนต์บรรทุก ๒๒๓ คันเรือ ๑๓๓ ลำ เข้าบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย ร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เน้นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า เร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ด้วยการอพยพคนขนย้ายสิ่งของสู่พื้นที่ปลอดภัย บริการรถ, เรือรับ – ส่งประชาชน และเข้าแจกจ่ายถุงยังชีพ 
พร้อมเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ และเฝ้าติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะชุมชนริมแม่น้ำ เส้นทางน้ำป่าไหลผ่าน และจุดบรรจบกันของแหล่งน้ำสาขาต่างๆ ทั้งนี้ตลอด ๓ สัปดาห์
ที่ผ่านมา หน่วยทหารในทุกพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยยังดำรงความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องซึ่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้ทุกหน่วยดูแลและซ่อมบำรุงเครื่องมือบรรเทาภัย ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ ที่นำไปออกช่วยเหลือประชาชน ให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหน่วยแพทย์ทหารในพื้นที่น้ำท่วมให้ดูแลสุขภาพร่างกายของกำลังพลที่ออกช่วยเหลือประชาชน ระมัดระวังการเกิดโรคที่มากับน้ำ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่
                   นอกจากนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้แจ้งเตือนหน่วยทหารในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  โดยเฉพาะใน ๒๕ ชุมชนเสี่ยง ที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอาจได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งในช่วงสัปดาห์นี้  ได้เตรียมกำลังทหารพร้อมช่วยขนย้ายสิ่งของ เตรียมชุดช่างเข้าช่วยสร้างสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อการสัญจร โดยขณะนี้ในแต่ละพื้นที่เสี่ยงได้มีการหารือร่วมกับ
ทางสำนักงานเขตไว้แล้ว
                จ.ปราจีนบุรี  ระดับน้ำที่ อ.บ้านสร้าง สูง ๘๐ เซนติเมตร กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ คงกำลังทหาร ๑๕๐ นาย พร้อมเรือติดเครื่องยนต์จากกรมการทหารช่าง ๑๐ ลำ    บริการรับ – ส่งประชาชนในพื้นที่ที่รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ พร้อมร่วมกับทางจังหวัด นำรถครัวสนามของกองทัพบกปรุงอาหารให้กับประชาชน และแจกจ่ายถุงยังชีพต่อเนื่อง ส่วนที่ อ.กบินทร์บุรีเกิดน้ำท่วมซ้ำในระลอกที่ ๓ ระดับน้ำ ๘๐ เซนติเมตร ซึ่ง มณฑลทหารบกที่ ๑๒ ส่งกำลังพล๑๕๐ นาย พร้อมชุดแพทย์เคลื่อนที่ ช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อีกทั้งพร้อมบริการรับ – ส่งในพื้นที่น้ำท่วมสูง อำนวยความสะดวกในการแจกจ่ายอาหารสด, ถุงยังชีพ ร่วมกับทุกภาคส่วน  สำหรับที่ อ.เมือง ระดับน้ำทรงตัวอยู่ที่ ๓๐ เซนติเมตร ซึ่งกำลังทหาร ๑๕๐ นาย ยังคงเข้าอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จัดรถรับ-ส่งในบางพื้นที่ที่น้ำยังท่วมสูง และแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยต่อเนื่อง  ขณะที่ อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.ประจันตคาม มวลน้ำจาก จ.สระแก้วเริ่มไหลเข้าในพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำสูง ๕ – ๑๕ เซนติเมตร  กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ ต้องนำทหาร ๓๐๐ นาย วางกระสอบทรายเป็นพนังกั้นน้ำในสถานที่สำคัญ เพื่อเตรียมรับมวลน้ำที่จะไหลลงมา และช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
                   จ.ฉะเชิงเทรา ที่ อ.ราชสาส์น ระดับน้ำท่วมอยู่ที่ ๕๐ เซนติเมตร ซึ่งเป็นมวลน้ำที่ไหลมาจาก จ.ปราจีนบุรี  ขณะนี้กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ จัดกำลังพลเข้าขนย้ายสิ่งของ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรต่อเนื่อง สำหรับที่ อ.บางคล้า และ อ.บ้านโพธิ กองพลทหารราบที่ ๑๑ เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และนำถุงยังชีพจากทุกภาคส่วนไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัย รวมถึงเคลื่อนศพออกจากวัดที่น้ำท่วมขังไปยังวัดในพื้นที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใน อ.พนมสารคาม ที่ขณะนี้มีน้ำท่วมในพื้นที่ทางการเกษตร ระดับน้ำอยู่ที่ ๖๐ เซนติเมตร
                   จ.อ่างทอง ระดับน้ำใน อ.ป่าโมก ยังคงล้นตลิ่งท่วมสูง ๑ เมตร ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อาศัยริมน้ำได้รับผลกระทบ ๕๑๙ ครัวเรือน แต่ถนนสายหลักยังคงใช้การได้ตามปกติ     กรมทหารปืนใหญ่ที่ ๑ รักษาพระองค์ เข้าช่วยเหลือด้วยการอพยพสิ่งของขึ้นที่สูง เข้ากางเต็นท์ที่พักบนถนน พร้อมตอกเสาเข็มป้องกันแนวคันดินกั้นน้ำสไลด์ ระยะทาง ๔๕๐ เมตร
                   จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำน้อยไหลเข้าท่วมที่ อ.เสนา ตั้งแต่ระดับ ๐.๕ – ๒.๓๐ เมตร  กองพันทหารม้าที่ ๒๗ เข้าสร้างสะพานไม้ระยะทาง ๒ กิโลเมตร ในพื้นที่ ม.๑,๒,๓,๔    ต.บางนมโค เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรระหว่างน้ำท่วม
                  จ.พิษณุโลก กองพลพัฒนาที่ ๓ พร้อมยุทโธปกรณ์ เข้าซ่อมแซมพนังกั้นน้ำใน ต.วังพิกุล อ.วังทอง ที่ถูกน้ำจากแม่น้ำวังทองกัดเซาะประมาณ ๒๐ เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหล
เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางราชการได้อีก
                   จ.ลำปาง มณฑลทหารบกที่ ๓๒ เข้าช่วยประชาชนทำความสะอาด และขนย้ายสิ่งของกลับเข้าบ้านใน ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง หลังจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลเข้าท่วมเมื่อ ๕ ตุลาคม ๕๖ ขณะนี้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว
                  จ.นครสวรรค์ น้ำท่วมกลับสู่ภาวะปกติ มณฑลทหารบกที่ ๓๑ เข้าฟื้นฟูทำความสะอาดในเขตเทศบาล อ.ลาดยาว
                                                ----------------------------         ๗ ตุลาคม ๒๕๕๖

คำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ. ๑๙ ก.ย.๕๖

ตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ให้ สลก.ทบ. ส่งคำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ. ต่อสื่อมวลชน เพื่อให้หน่วยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ ปชส.ในพื้นที่  และให้ ศทท. นำขึ้นเว็บไซต์ ทบ.
 
พ.ท.หญิง ทักษดา สังขจันทร์
หน. แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก
โทร. 02-2977821

ข่าวแจก ๔ ต.ค. ๕๖

ทบ. เร่งตรวจสอบพื้นที่รับน้ำ เตรียมปรับการช่วยเหลือให้ตรงสถานการณ์ และความต้องการของประชาชน พร้อมติดตามระดับน้ำใกล้ชิด
 
                ตามที่ได้เกิดฝนตกต่อเนื่องทำให้ในหลายพื้นที่ระดับน้ำสูงขึ้น ซึ่งกองทัพบกยังคงดำรงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่  โดยการช่วยเหลือส่วนใหญ่คือ การรับ – ส่งประชาชน แจกจ่ายเครื่องอุปโภค บริโภค ส่งชุดแพทย์ตรวจสุขภาพ นอกจากนี้ยังได้ปรับกำลังทหารและเครื่องบรรเทาสาธารณภัยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด พร้อมเฝ้าติดตามระดับน้ำในพื้นที่ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และเตรียมช่วยเหลือในพื้นที่ที่คาดว่าเป็นพื้นที่รับน้ำต่อไป อาทิ จ.ฉะเชิงเทรา, จ.ลพบุรี  โดยการช่วยเหลือในพื้นที่สำคัญดังนี้
                จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำใน อ.เมือง และ อ.ศรีมหาโพธิ ยังคงทรงตัวอยู่ที่ ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร และมีแนวโน้มลดลง  กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ คงกำลังทหาร ๓๐๐ นาย เข้าอำนวยความสะดวกการสัญจร และบริการรับ – ส่งประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและน้ำท่วมขังต่อเนื่อง  สำหรับที่ อ.บ้านสร้าง มวลน้ำจาก อ.เมือง และ อ.ศรีมหาโพธิ บรรจบกับน้ำจากการระบายน้ำที่เขื่อนขุนด่านปราการชล ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมสูง ๗๐ เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้ทหาร ๑๕๐ นาย  เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของ ใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือติดเครื่องยนต์ จากกรมการทหารช่าง ๑๐ ลำ  ช่วยในการสัญจรในพื้นที่น้ำท่วมสูง และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำร่วมกับทางจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
                จ.ฉะเชิงเทรา มวลน้ำจาก จ.ปราจีนบุรี ไหลเข้าท่วม อ.ราชสาส์น สูง ๔๐ – ๕๐ เซนติเมตร ขณะนี้กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์  เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของ พร้อมบริการรับ - ส่งประชาชนในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ พร้อมเฝ้าระวังในพื้นที่ เพื่อเตรียมเข้าช่วยเหลือทันทีหากเกิดสถานการณ์ สำหรับที่ อ.พนมสารคาม และ อ.บ้านโพธิ์ คลี่คลายสู่ภาวะปกติ  กองพลทหารราบที่ ๑๑ นำกำลังพลเข้าแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
                จ.ลพบุรี โดยเฉพาะที่ อ.สระโบสถ์, อ.โคกสำโรง และ อ.บ้านหมี่  หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งทหาร ๕๐ นาย เข้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองสายหลัก เพื่อเปิดเส้นทางการไหลของน้ำ และทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประสานความร่วมมือกับส่วนราชการในพื้นที่ พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดเหตุการณ์
                   จ.เพชรบูรณ์ มวลน้ำจากเทือกเขาตะพาบประกอบกับแม่น้ำป่าสักล้นตลิ่ง เข้าท่วม อ.ศรีเทพ และ อ.วิเชียรบุรี  ขณะนี้สถานการณ์น้ำทรงตัว มีแนวโน้มลดลง กองพันทหารม้าที่ ๑๘ ยังคงกำลังพล ๑๕๐ นาย กระจายออกให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมขัง ด้วยการจัดรถรับ –ส่ง และแจกจ่ายถุงยังชีพ  สำหรับใน อ.เมือง สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว มีเพียงบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำป่าสักที่ยังคงได้รับผลกระทบเล็กน้อย ระดับน้ำ ๑๐ –๒๐ เซนติเมตร  ซึ่งกองพันทหารม้าที่ ๒๗ รักษาพระองค์ ยังคงเฝ้าติดตามระดับน้ำริมแม่น้ำ และเข้าสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อช่วยเหลือตามร้องขอ
        ----------------------------        
                                                                                          ๔ ตุลาคม ๒๕๕๖

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เอกสารข่าว ทบ.3 ต.ค.56

ทบ. ระบุกำลังทหารยังคงช่วยน้ำท่วมต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขังที่ต้องใช้รถและเรือบริการรับ – ส่ง และแจกอาหาร เพื่อการดำรงชีพในแต่ละวัน รวมทั้งการเข้า ซ่อมและเสริมความแข็งแรงพนังกั้นน้ำที่ชำรุด
 
                ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ กองทัพบกยังคงกำลังทหาร    ๔,๘๐๐ นาย ยานพาหนะ ๒๑๖ คัน และเรือท้องแบน ๑๒๒ ลำ เข้าช่วยเหลือประชาชน
อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันบางพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ บางพื้นที่น้ำยังคงท่วมสูง อาทิ ปราจีนบุรี, อุบลราชธานี  โดยการช่วยเหลือส่วนใหญ่เป็นการอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรให้กับประชาชน ช่วยแจกจ่ายถุงยังชีพ เสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ และประสานความร่วมมือกับส่วนราชการในพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือประชาชนตามร้องขอ  ในขณะเดียวกันเฝ้าติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิด สำหรับพื้นที่ที่กองทัพเข้าให้ความช่วยเหลือที่สำคัญมีดังนี้
                จ.พิษณุโลก ระดับน้ำทรงตัว มีแนวโน้มลดลง ซึ่ง กองพลทหาราบที่ ๔ ยังคงกำลังทหารช่วยประชาชนอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร และแจกจ่ายเครื่องอุปโภค บริโภค  ขณะที่กำลังทหาร ๑๒๐ นาย เร่งซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่พังจากการถูกน้ำกัดเซาะความยาว ๑๕ เมตร ที่     บ.ท่าแห ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนชุมชนริมคลองวัดตายม     โดยวางกระสอบทรายเพิ่มและตอกเสาเข็ม เพื่อเสริมความมั่นคงของพนังกั้นน้ำไปแล้ว ๕ เมตร และจะยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
                  จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำใน อ.เมือง และ อ.วารินชำราบ ทรงตัวอยู่ที่ ๑ – ๒.๕ เมตร ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง  โดยมณฑลทหารบกที่ ๒๒ ยังคงกำลังทหาร ๗๐ นาย พร้อมเรือ        ติดเครื่องยนต์บริการรับ – ส่ง ประชาชน แจกจ่ายเครื่องอุปโภค – บริโภคอย่างต่อเนื่อง และช่วยเหลือส่วนราชการในพื้นที่ตามร้องขอ นอกจากนี้ยังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด  สำหรับบริเวณลำน้ำโดมใหญ่ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล น้ำล้นตลิ่งสูง ๕๐ เซนติเมตร เข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนริมแม่น้ำ อ.นาเยีย, อ.พิบูลมังสาหาร และ อ.สว่างวีระวงศ์  ซึ่งยังคงกำลังทหาร  ๔๐ นาย ใช้รถยนต์ขนาดใหญ่รับ – ส่งประชาชน และแจกจ่ายเครื่องอุปโภค บริโภค
                    จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำทรงตัวมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.เมือง และ    อ.ศรีมหาโพธิ  กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ ยังคงทหาร ๕๗๐ นาย เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อำนวยความสะดวกด้านการสัญจร จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการตรวจรักษา ชุดครัวสนามเคลื่อนที่ ปรุงอาหารสดแจกจ่ายผู้ประสบภัย ๓ มื้อ รวม ๕,๐๐๐ กล่อง/วัน และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในเขตเมือง  สำหรับที่ อ.บ้านสร้าง ระดับน้ำเพิ่มสูงเป็น ๘๕ เซนติเมตร กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ ยังเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเรือลาดตระเวนตรวจวัดระดับน้ำ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น นำรถยนต์บรรทุก และเรือบริการรับ – ส่งประชาชน, ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมส่งอาหารปรุงสด และน้ำดื่มเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เข้าถึงยาก
                                  ----------------------------           ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖

คำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ. ๑๙ ก.ย.๕๖

ตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ให้ สลก.ทบ. ส่งคำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ. ต่อสื่อมวลชน เพื่อให้หน่วยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ ปชส.ในพื้นที่  และให้ ศทท. นำขึ้นเว็บไซต์ ทบ.
 
พ.ท.หญิง ทักษดา สังขจันทร์
หน. แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก
โทร. 02-2977821

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข่าว สลก.ทบ. 30 ก.ย.56

ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑)
กองทัพบกขอส่งความปรารถนาดีไปยังข้าราชการทหารและลูกจ้างที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ กองทัพบกตระหนักอยู่เสมอว่าทุกคนยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ และพร้อมจะสร้างประโยชน์ต่อสังคมต่อไปในทุกสถานภาพ
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๒)
 ขณะนี้ กองทัพบกยังคงกำลังทหารจากกองร้อยช่วยเหลือประชาชน จำนวน ๔,๐๕๐ นาย ยานพาหนะ ๑๔๗ คัน และเรือท้องแบน ๖๗ ลำ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๓)
กองทัพบกระบุ จากที่ได้ขุดลอกและพัฒนาแหล่งน้ำ ๙๘ แห่ง เมื่อต้นปี ๕๖ ใน ๓๗ จังหวัด แหล่งน้ำที่ขุดไว้เป็นแก้มลิงช่วยรับน้ำได้เป็นอย่างดี อาทิ บึงกระดิ่ง บ่อน้ำหนองอ้อ บ่อน้ำหนองน้ำทรง และคลองตาแวน ใน จ.นครสวรรค์ ที่เก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นกว่า ๖๐ %
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๔)
กองทัพบกระบุ จากที่ได้ขุดลอกและพัฒนาแหล่งน้ำ เมื่อต้นปี ๕๖ ในพื้นที่จ.สุรินทร์ จำนวน ๗ โครงการ ทำให้เพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำได้เป็นอย่างดีถึง ๖๐ %
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๕)
กองทัพบกระบุ จากการที่ได้ขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยด่าง จ.ศรีสะเกษ เมื่อต้นปี ๕๖ สามารถเพิ่มการเก็บกักน้ำได้ถึง ๘๖ % เป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันอุทกภัยอย่างยั่งยืน
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๖)
                   ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง บริเวณ ต.ปลายกลัดอ.บางซ้าย กองพันทหารม้าที่ ๒๐ เข้าก่อกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมแหล่งชุมชน
   ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๗)
                  จ.อ่างทอง น้ำยังคงท่วมขัง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก กองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๑๑รักษาพระองค์ ร่วมกับสภากาชาดไทยแจกจ่ายถุงยังชีพ ๕๐๐ ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
                                 ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๘)
 ที่ ต.บ้านโคก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะที่กองพันทหารม้าที่ ๒๖ ร่วมกับ อบต.บ้านโคก เร่งช่วยประชาชนย้ายสิ่งของหนีน้ำ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๙)
ที่ จ.พิษณุโลก น้ำในแม่น้ำวังทองเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดเทศบาลวังทองและต.วังทอง,ต.วังพิกุล อ.วังทอง กองพลพัฒนาที่ ๓ ส่งทหาร ช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ทำแนวพนังกั้นน้ำบริเวณตลาดเทศบาลฯ , บ.วังพรม และ บ.วังฉำฉา
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑๐)
ที่ จ.พะเยา ระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่ปกติแล้ว โดยจังหวัดทหารบกพะเยา ส่งทหาร ๑๐๐ นาย เข้าช่วยประชาชนทำความสะอาดบ้านเรือนและสถานที่สาธารณะ ที่เทศบาลเมืองดอกคำใต้ และบ้านทุ่งหลวง ต.ดอน อ.ดอกคำใต้ เพื่อให้ประชาชนกลับใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑๑)
ที่ จ.ศรีสะเกษ น้ำยังคงท่วมขังบริเวณเทศบาลเมือง อ.ศิลาลาด กรมทหารปืนใหญ่ที่ ๖ ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งผันน้ำออกจากพื้นที่เพิ่มความแข็งแรงของคันกั้นน้ำป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมเพิ่มเติม
         …………………………………..          
     ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖

เอกสารข่าว ทบ.

ทบ.เตรียม ๑๗๑ กองร้อยช่วยเหลือประชาชนพร้อมทุกเมื่อ ระบุแหล่งน้ำที่ทหารช่างได้เข้าขุดลอกใน ๓๗ จังหวัดเมื่อต้นปี ๕๖  เป็นส่วนหนึ่งช่วยรองรับน้ำท่วมในขณะนี้
 
                  สถานการณ์อุทกภัยยังทรงตัวอยู่หลายพื้นที่ มีบางจังหวัดที่ยังวิกฤต เช่นจ.ปราจีนบุรี  ซึ่งกองทัพบกยังคงกำลังทหารจากกองร้อยช่วยเหลือประชาชน จำนวน ๔,๐๕๐ นาย ยานพาหนะ ๑๔๗  คัน และเรือท้องแบน ๖๗ ลำ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทั้งการใช้กำลังทหาร เพื่อขนย้ายสิ่งของ ขนและแจกจ่ายถุงยังชีพ การสร้างและเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ริมตลิ่ง รวมถึงการเฝ้าติดตามปริมาณน้ำในลุ่มน้ำสำคัญ เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในปัจจุบัน กองทัพบกได้เตรียมกำลังกองร้อยช่วยเหลือประชาชนไว้ถึง ๑๗๑ กองร้อย กำลังพล ๓๐,๐๐๐ นาย พร้อมช่วยเหลือในทุกวิกฤตโดยทันที
                  นอกจากนี้ กองทัพบกยังได้มีส่วนช่วยป้องกันและเตรียมความพร้อมในการแก้ปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน โดยเป็นการดำเนินการตามที่รัฐบาลมอบหมาย ที่สำคัญได้แก่
การใช้หน่วยทหารช่างทั่วประเทศเข้า
ดำเนินการ “โครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ”ตามนโยบายรัฐบาล ในช่วงเดือน มีนาคม – มิถุนายน ๕๖ โดยได้เข้าดำเนินการขุดลอกคูคลองและแหล่งน้ำสาธารณะในพื้นที่ ๓๗ จังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศ มีปริมาณการขุดลอกดิน ทั้งสิ้น  ๑๑,๕๒๑,๖๙๓ ลูกบาศก์เมตร   แบ่งเป็นการขุดลอกแหล่งน้ำ ๒๙ แห่ง   และการขุดลอกคลอง ๖๙ แห่ง ซึ่งอ่างเก็บน้ำและบ่อน้ำที่ทำการขุดลอก ได้ทำหน้าที่เป็นแก้มลิง ช่วยรองรับน้ำ ทั้งจากน้ำฝน และน้ำที่ล้นตลิ่ง มีพื้นที่สำคัญ ดังนี้
พื้นที่ จ.นครสวรรค์ งานขุดลอกอ่างและบ่อเก็บน้ำ ทั้งสิ้น ๔ โครงการ ได้แก่บึงกระดิ่ง, บ่อน้ำหนองอ้อ ,บ่อน้ำหนองน้ำทรง และ คลองตาแวน  สามารถเพิ่มความจุของการ
กักเก็บน้ำได้กว่า ๓๒๐
,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร   ทำให้เก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นกว่า ๖๐ %
                    พื้นที่ จ.ศรีษะเกษ มีโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ ห้วยด่าน ความสามารถในการเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้น  กว่า ๘๖ %  งานขุดสระเก็บน้ำโสกขามป้อม ความสามารถในการเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นกว่า ๕๐ %
                    พื้นที่ จ.สุรินทร์ มีงานขุดลอกสระน้ำและลำห้วย ทั้งสิ้น ๗ โครงการ ความสามารถในการเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นกว่า ๖๐ %
                            พื้นที่ จว.อุบลราชธานี มีงานขุดลอกบึงเปลือย ความสามารถในการเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นกว่า ๖๕ %
                   ทั้งนี้ ในช่วงอุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้น กองทัพบกจะได้รวบรวมความสามารถในการรองรับน้ำของแหล่งน้ำที่ได้ขุดลอกไว้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วย
ในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
                           ...............................................           ๓๐  กันยายน ๒๕๕๖