วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 6 มี.ค.57

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อสื่อมวลชน
ประจำวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๗  เวลา ๐๙๐๐  ณ  นปอ.

สื่อมวลชน       :           การวางกำลังตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพ
ผบ.ทบ.           :              วันนี้ได้การปรับให้เกิดความเหมาะสมตามสถานการณ์ และวางบทบาทที่ชัดเจนขึ้น เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราดูแลใครเป็นพิเศษ  ท่านลองไปดูว่าการวางแผนในการทำงานต้องเริ่มตั้งแต่กำหนดเป้าหมาย ที่หมาย ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุ  จากนั้นไปสู่เส้นทาง จุดตรวจ จุดร่วม จุดสกัด เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุขึ้นในพื้นที่เหล่านั้น  เพราะฉะนั้นบางครั้งอาจจะมองว่าไปดูแลใคร ป้องกันภัยให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเปล่า ไม่ใช่ ผมยอมรับว่าไม่ใช่  แต่ที่ต้องไปเพราะที่เหล่านั้นคือที่หมาย ที่หมายในการใช้อาวุธสงคราม ที่หมายในการใช้ความรุนแรง  ถ้าเราลดจุดใดจุดหนึ่งไปในขณะนี้ ผมคิดว่าสถานการณ์อาจจะมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น ถ้าแต่ละฝ่ายยังไม่หยุดการเคลื่อนไหวที่ใช้ความรุนแรง  เมื่อมีฝ่ายหนึ่งใช้ อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องป้องกันอย่างที่ผมเคยเรียนไปแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา                      
สื่อมวลชน       :           ได้มีการคุมเข้มสถานที่ราชการ เช่น ศาลอาญา ปปช.
ผบ.ทบ.           :           ตอนนี้มีการวางกำลังอยู่แล้ว ตามแผนของ ศรส. เป็นหน้าที่ เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไปดูแลสถานที่ราชการเหล่านั้นให้เขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้  คือเราต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม  ถ้าเราไม่เชื่อมั่นประเทศจะไปไม่ได้  ทุกประเทศเขาใช้กระบวนการยุติธรรม  ส่วนที่ว่าจะเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมก็ติดตามต่อไป  ผมว่าการตัดสินหลายๆ อย่าง ท้ายสุดอยู่ที่พยานหลักฐาน สิ่งที่พิสูจน์ทราบได้  ประชาชนทุกคนสามารถที่พูดได้บอกได้ว่าใครถูกใครผิด แต่ทั้งหมดต้องเข้าไปในกระบวนการยุติธรรม และให้เขาตัดสินด้วยการไม่ถูกบังคับ  ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี
สื่อมวลชน       :           ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
ผบ.ทบ.           :           ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการ  เขาใช้คำว่ากระบวนการ  ถ้าท่านไม่เชื่ออะไรกันแล้วกระบวนการเขามีอยู่ หลักฐาน พยานอะไรต่างๆ ไม่ได้ตัดสินด้วยคนๆ เดียว  เพราะฉะนั้นถ้าตัดสินไม่ดี สามารถอุทธรณ์ได้ ต่อสู้ได้  ผมไม่ก้าวล่วงอำนาจศาล  
สื่อมวลชน       :           เกี่ยวกับกรณีการแบ่งแยกดินแดน มีการปิดป้ายอะไรก็ตาม ในฐานะท่านเป็นรอง ผอ.รมน.ที่ดูแลด้านความมั่นคง
ผบ.ทบ.                 :                      ผมพยายามทำทุกอย่าง  หน้าที่ของ กอ.รมน. คือการป้องกัน บูรณะ ยับยั้งเหตุการณ์ความไม่สงบที่จะเกิดขึ้น  ป้องกันก่อน เมื่อป้องกันไม่ได้ เกิดขึ้นแล้วจึงไประงับที่จะลุกลามต่อไป หรือถ้ามีการใช้กำลังมากขึ้นต้องมีการใช้กำลังเข้าไปยับยั้ง นั่นคือหน้าที่ของ กอ.รมน.  แต่หน้าที่ในยามปกติ วันนี้ผมยังถือว่าปกติเพราะกลไกทุกกลไกยังคงมีอยู่  เพราะฉะนั้นหน้าที่ยามปกติคือติดตามสถานการณ์ด้านข่าวสาร และให้มวลชนได้สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นสีใด พวกใด  ผมให้ทหารไปพูดคุยว่าต้องเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่สามารถที่จะควบคุมคนทุกคนได้  แต่ขอร้องว่าอย่าทำผิดกฎหมาย เราละเว้นไม่ได้  ถ้าทำคดีเดียวกันก็ต้องแจ้งความเหมือนกัน  ยังไม่มีใช่ไหมคดีเดียวกันแบบนี้  แต่อีกฝ่ายหนึ่งมีคดีอยู่ ๒๐๐ , ๓๐๐ คดีก็ว่าไปในศาล ดำเนินการอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ไม่ได้มีการดำเนินการ อะไรก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในกระบวนการของ ศรส. อันนี้เป็นหน้าที่ของ กอ.รมน.ต้องไปดู   
สื่อมวลชน       :              รู้สึกอึดอัดใจไหมเพราะว่าข่าวที่ออกมา
ผบ.ทบ.           :              ในเมื่อผมอยู่ตรงนี้ ผมต้องทำใจให้ได้ ต้องอดทน แล้วผมต้องยึดมั่นในหลักการของผมว่าผมยึดคำว่ากระบวนการยุติธรรม  กระบวนการยุติธรรมมีหลายกระบวนการตั้งแต่ตรวจสอบ หาพยานหลักฐาน ตัดสิน พิจารณาความทั้งหมด  ไม่ใช่คนนี้มาแล้วตัดสินอย่างนี้ คนนั้นไปแล้วเปลี่ยนได้ ไม่ใช่  ด้วยหลักฐาน เพราะฉะนั้นถ้าแต่ละฝ่ายยอมรับในหลักการตรงนี้ เอาหลักฐาน เอาพยานมาดูกันแล้วยอมรับในกติกากันบ้าง  ผมว่าบ้านเมืองจะสงบ  ผมยอมรับว่ามีผลกระทบกับทุกฝ่าย แต่ผมไม่อยากให้มีผลกระทบกับทั้งรัฐบาล ทั้ง กปปส. เพราะ กปปส. เขาเคลื่อนไหวของเขา แต่โอเคเขาผิดตรงไหนก็ไปว่าตรงนั้น  ผมไม่ได้เข้าข้างเขา ผมไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้นที่ผิดกฎหมาย
สื่อมวลชน       :           กรณีโกตี๋ที่ติดป้ายท้าทายอำนาจรัฐ  
ผบ.ทบ.           :              ท้าทาย  อำนาจรัฐ รัฐต้องดำเนินการ  จะเร่งรัดให้ ศรส. เขาดำเนินการ เพราะว่า ศรส. มีหน้าที่ในการดูแลในพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล จะผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ศรส. ส่วนทหารมีหน้าที่ในการเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน
สื่อมวลชน       :              มีการปลุกระดมให้มวลชนเกิดการปะทะกัน
ผบ.ทบ.           :              มีมาตลอด  มีคนอยู่ไม่กี่กลุ่มที่ทำเรื่องนี้  บางคนบอกว่ารู้แล้วทำไมไม่ดำเนินการ  ผมดำเนินการทางกฎหมาย ให้ ศรส. เข้าไป ให้ตำรวจเขาดำเนินการ ส่งข้อมูลให้เขา หน้าที่ผมมีแค่นั้น  หน้าที่ผมไม่ใช่ไปไล่ล่าจับกุมเอง ไม่ใช่หน้าที่ทหาร  ไปขับเคลื่อนให้คนเขาทำงานให้ทุกคนเขามีกำลังใจ อย่าไปตำหนิเขา ให้ร้ายเขามากนัก  บางครั้งการเป็นข้าราชการรัฐลำบากในการวางตัวในการทำงาน  แต่ผมยืนยันอยู่อย่างหนึ่งว่า ขอร้องอย่าใช้ความรุนแรงจนเกินขีดจำกัด 
สื่อมวลชน       :              ท่านได้คุยกับนายกไหมในฐานะที่ กลุ่มคนเสื้อแดงเขาก็สนับสนุนพรรคเพื่อไทย
ผบ.ทบ.           :              คุยมาตลอด  ท่านก็บอกว่าท่านพยายามห้ามปราม ท่านได้สั่งการไปแล้ว ไปติดตามดู ผมรายงานขึ้นไปตลอด
สื่อมวลชน       :              กรณี สปป.ล้านนา ผบ.มองว่ามีเป้าหมายไปสู่การแบ่งแยกประเทศไหม
ผบ.ทบ.           :              เป็นแนวคิด ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ผิดกฎหมายไหม ท่านลองคิดดู  หยาบคายไหมอันที่หนึ่ง ใช้คำหยาบคายได้ไหม  ผิดหมดทุกกฎหมาย  ต้องดำเนินการ  แต่ถ้ามี ศรส.ดำเนินการอยู่แล้ว ผมจะต้องไปทำอะไร  ท่านต้องแยกให้ออกว่าใครทำอะไร ใครผิดตรงไหน แล้วใครดำเนินการอยู่ ต้องแยกให้ออก แจ้งความกันอยู่แล้ว  คดี ๓๐๐ กว่าคดีไม่ใช่หรือ  ผมไม่ได้เห็นชอบว่า ๓๐๐ คดีว่าเขาถูก  ให้เขาเคารพกระบวนการยุติธรรม
สื่อมวลชน       :              ได้พูดคุยกับนายกฯ ในเรื่องใดบ้าง
ผบ.ทบ.           :              ท่านสอบถามสถานการณ์เป็นอย่างไร ทหารทำหน้าที่อะไรบ้าง อธิบายให้ท่านฟัง  แล้วอะไรที่เป็นความวุ่นวายผมนำเรียนให้ท่านทราบ ท่านก็รับไปท่านจะไปดำเนินการ ท่านขอร้องบอกขอให้ทหารทำหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม ผมบอกยืนยันผมทำอยู่แล้ว  อธิบายให้ท่านเข้าใจว่าเหตุผลและความจำเป็นว่าอะไร ท่านก็เข้าใจ
สื่อมวลชน       :              ได้คุยกับท่านนายกเรื่องของการเดินหน้าการเจรจาพูดคุยกับคุณสุเทพไหมว่าเป็นอย่างไร
ผบ.ทบ.           :              มีการพูดกันบ้างเล็กน้อย  แต่ทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ผม อยู่ที่คนพูดคุยกัน

สื่อมวลชน       :              ผบ. สนับสนุนให้ท่านนายก อย่าสร้างเงื่อนไข
ผบ.ทบ.           :              ผมไม่อยากอยู่ในส่วนตรงนั้น  ผมไม่มีส่วนในเรื่องว่าจะคุยกันอย่างไร เรื่องอะไร ไม่ใช่เรื่องของผม  หน้าที่ผมคือสร้างสภาวะแวดล้อมให้ปลอดภัย  เรื่องอื่นเป็นเรื่องของการเมือง  เรื่องผิดกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมว่าไป เรื่องรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทหารก็มาช่วยดูแล  เรื่องการจับกุมดำเนินคดี การกระทำผิดกฎหมาย ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย    เพราะฉะนั้นถ้าปล่อยให้เกิดขึ้นอย่างนี้ไม่ได้  ถ้าอีกพวกหนึ่งเขียนป้ายก็ต้องแจ้งความเหมือนกัน   
สื่อมวลชน       :           วันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ กับรัฐบาล กับท่านนายกเป็นอย่างไรบ้าง
ผบ.ทบ.                 :               ผมมีสัมพันธ์ที่ดีกับคนทั้งประเทศ ผมไม่ได้เป็นศัตรูใคร  ผมเป็นทหารของประชาชน  ผมไม่ได้รังเกียจใครสักคน  ผมเกลียดเขาไม่ได้  เพราะเขาเป็นคนไทย  ผมถูกสอนมาว่าผมต้องมีหน้าที่ที่ต้องดูแลคนไทยทุกคนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านทรงสอนมาว่าหน้าที่เราคือหน้าที่ที่เราต้องมีต่อประชาชน และทำอย่างไรให้เขาปลอดภัย จะทำอย่างไรให้เขาอยู่ดีกินดี จะทำอย่างไรให้เขามีความสุข  แต่วันนี้สถานการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้นจากแนวความคิด จากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ต้องแก้ไขให้ได้  ขอร้องว่าอย่าใช้ความรุนแรงต่อกันเลย ไม่เกิดประโยชน์  แล้วคนที่เจ็บที่ตายก็ประชาชนคนไทยทั้งนั้น  บางคนบอกว่าไม่เห็นเป็นไรต่อสู้กันให้มีแพ้ชนะตายเจ็บบ้าง  ถามว่าถ้าเป็นญาติพี่น้องตัวเองจะยอมไหม  เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องต้องมาตั้งสติให้ใคร่ครวญ ชุมนุมโดยสงบทำอย่างไร กระบวนการยุติธรรมจะเดินอย่างไร ศาลว่าอย่างไร  ทุกคนต้องเคารพกติกา  แต่ถ้าใช้ความรุนแรงมากดดันกันไม่ได้
สื่อมวลชน       :           ที่นายกติงมาว่าจุดตรวจของทหาร
ผบ.ทบ.           :           พยายามปรับอยู่  ปรับติดดอกไม้ เอาผ้าม่านสีชมพูไหม  ให้ทำอยู่ อย่างที่ผมบอกเส้นทางต่างๆ วางด้วยเหตุผลและความจำเป็น ไม่ใช่วางเพื่อจะไปป้องกันอะไรใคร ไม่ใช่  มีที่หมายอยู่ที่ไหนบ้าง  พอมีที่หมายมาเสร็จแล้วต้องวางโซนนิ่งให้ได้            
สื่อมวลชน       :           เมื่อปรับจุดตรวจแล้ว  
ผบ.ทบ.           :           ป้องกันอยู่แล้ว ให้เขาใช้เสื้อเกราะ  ที่สร้างบังเกอร์เพราะเขาต้องระวังตัวเขา  เขาก็เป็นเป้าหมาย สามารถถูกทำร้ายได้ เพราะเขาไม่ได้ใช้อาวุธไปตอบโต้ เป็นจุดอ่อน  เพราะฉะนั้นเขาต้องป้องกันตัวเขาให้ได้   ต้องมีกระสอบทราย  แต่เดี๋ยวจะทำให้ซอฟท์ลงหน่อย  ทหารคือทหาร  ให้อ่อนแอพับเพียบเรียบร้อยเป็นลิเกได้อย่างไร 
สื่อมวลชน       :           เป็นห่วงเรื่องอาวุธสงคราม จะดูแลปัญหานี้อย่างไร
ผบ.ทบ.           :           สังคมวันนี้จะอยู่ได้โดยพวกเรานั้นช่วยกันให้ทุกคนเคารพในกติกา เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และยอมรับในตรงนั้น เพราะด้วยพยานหลักฐาน  ถ้าไม่ยอมรับก็ต่อสู้ทางศาล  ถ้าใช้อาวุธต่อสู้ไม่มีใครชนะ  ทหารคงปล่อยไม่ได้ที่จะให้ทุกคนมารบกัน  เป็นหน้าที่ของ กอ.รมน. เป็นหน้าที่ที่เขียนไว้ตามรัฐธรรมนูญ   

..............................................
            แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก

ตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ให้ สลก.ทบ. ส่งคำสัมภาษณ์ผบ.ทบ.ต่อสื่อมวลชน  เพื่อให้หน่วยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ ปชส.ในพื้นที่และให้ ศทท. นำขึ้นเว็บไซต์ ทบ.

พ.ท.หญิง ทักษดา สังขจันทร์  หน. แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพบก  โทร. 02-2977821