วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ. วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๗

ทบ. สานต่อโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำปี ๕๗ส่งทหารช่างเข้าขุดลอกคูคลองใน๒๕จังหวัด ๕๙ แผนงาน หวังให้เกิดโครงข่ายการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ในปี๒๕๕๗ นี้ กองทัพบกสานต่อโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำตาม นโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องประสบปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในทุกพื้นที่ โดยไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น  โดย ในปีนี้กองทัพบกจะใช้หน่วยทหารช่างจาก กองทัพภาคที่ ๑, กองทัพภาคที่ ๒, กองทัพภาคที่๓, กองทัพภาคที่ ๔ และ กรมการทหารช่าง   เข้าดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำใน ๕๙ แผนงาน คลอบคลุมพื้นที่ ๒๕ จังหวัด โดยมีทั้งแผนงานป้องกันน้ำท่วม แผนงานป้องกันภัยแล้ง และแผนงานป้องกันทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง โดยจะดำเนินการในลักษณะขุดลอกคูคลอง, สร้างอ่างเก็บน้ำและแก้มลิง  ในชุมชนที่ได้สำรวจความต้องการร่วมกับภาคประชาชนและส่วนราชการในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้หน่วยทหารช่างพร้อมเครื่องมือช่าง ได้เริ่มลงพื้นที่ปฏิบัติงานแล้วโดยจะใช้เวลาดำเนินงานระหว่าง                 มกราคม เมษายน ๕๗                                                                                                                            ทั้งนี้การทำงานจะยึดตามมาตรฐานงานช่าง มีกรอบระยะเวลาดำเนินการที่ชัดเจนควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน นอกจากนี้ยังได้นำประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวเมื่อปี ๒๕๕๖ มาปรับใช้ในการทำงานด้วย อาทิ การปลูกพืชคลุมดินในบริเวณที่เสี่ยงต่อการพังทลายของตลิ่ง การปลูกต้นไม้ยืนต้นในพื้นที่ปฏิบัติงาน การพิจารณาจัดทำบ่อดักตะกอนในช่องทางที่น้ำไหลเข้า เพื่อป้องกันการตื้นเขินของบ่อหรืออ่างเก็บน้ำเร็วเกินไป รวมถึงการสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลรักษาแหล่งน้ำ  ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างเต็มขีดความสามารถ โปร่งใส   มีประสิทธิภาพภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการอำนวยการโครงการที่กองทัพบกจัดตั้งขึ้น อนึ่ง กองทัพบกได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ ตามนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ได้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี ๒๕๕๔
 และเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งกองทัพบกได้ส่งหน่วยทหารช่างเข้าดำเนินการขุดลอกคูคลองเสร็จเรียบร้อยแล้วใน ๔๖ จังหวัด ๙๗ โครงการการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ระบบการระบายน้ำในแหล่งน้ำที่ได้รับการขุดลอกมีประสิทธิภาพขึ้น ๙๐ เปอร์เซ็นต์ และช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งให้กับประชาชนได้ถึง ๔๗๗ หมู่บ้าน
                                                                    .............................................
ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ. วันที่    ๒๑   มกราคม ๒๕๕๗
จาก พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ.


ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ. วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๗

ทบ. สานต่อโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำปี ๕๗ส่งทหารช่างเข้าขุดลอกคูคลองใน๒๕จังหวัด ๕๙ แผนงาน หวังให้เกิดโครงข่ายการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ในปี๒๕๕๗ นี้ กองทัพบกสานต่อโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำตาม นโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องประสบปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในทุกพื้นที่ โดยไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น  โดย ในปีนี้กองทัพบกจะใช้หน่วยทหารช่างจาก กองทัพภาคที่ ๑, กองทัพภาคที่ ๒, กองทัพภาคที่๓, กองทัพภาคที่ ๔ และ กรมการทหารช่าง   เข้าดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำใน ๕๙ แผนงาน คลอบคลุมพื้นที่ ๒๕ จังหวัด โดยมีทั้งแผนงานป้องกันน้ำท่วม แผนงานป้องกันภัยแล้ง และแผนงานป้องกันทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง โดยจะดำเนินการในลักษณะขุดลอกคูคลอง, สร้างอ่างเก็บน้ำและแก้มลิง  ในชุมชนที่ได้สำรวจความต้องการร่วมกับภาคประชาชนและส่วนราชการในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้หน่วยทหารช่างพร้อมเครื่องมือช่าง ได้เริ่มลงพื้นที่ปฏิบัติงานแล้วโดยจะใช้เวลาดำเนินงานระหว่าง                 มกราคม เมษายน ๕๗                                                                                                                            ทั้งนี้การทำงานจะยึดตามมาตรฐานงานช่าง มีกรอบระยะเวลาดำเนินการที่ชัดเจนควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน นอกจากนี้ยังได้นำประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวเมื่อปี ๒๕๕๖ มาปรับใช้ในการทำงานด้วย อาทิ การปลูกพืชคลุมดินในบริเวณที่เสี่ยงต่อการพังทลายของตลิ่ง การปลูกต้นไม้ยืนต้นในพื้นที่ปฏิบัติงาน การพิจารณาจัดทำบ่อดักตะกอนในช่องทางที่น้ำไหลเข้า เพื่อป้องกันการตื้นเขินของบ่อหรืออ่างเก็บน้ำเร็วเกินไป รวมถึงการสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลรักษาแหล่งน้ำ  ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างเต็มขีดความสามารถ โปร่งใส   มีประสิทธิภาพภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการอำนวยการโครงการที่กองทัพบกจัดตั้งขึ้น อนึ่ง กองทัพบกได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ ตามนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ได้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี ๒๕๕๔
 และเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งกองทัพบกได้ส่งหน่วยทหารช่างเข้าดำเนินการขุดลอกคูคลองเสร็จเรียบร้อยแล้วใน ๔๖ จังหวัด ๙๗ โครงการการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ระบบการระบายน้ำในแหล่งน้ำที่ได้รับการขุดลอกมีประสิทธิภาพขึ้น ๙๐ เปอร์เซ็นต์ และช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งให้กับประชาชนได้ถึง ๔๗๗ หมู่บ้าน
                                                                    .............................................
ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ. วันที่    ๒๑   มกราคม ๒๕๕๗
จาก พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ.


ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ. วันที่ ๑๘ ม.ค. ๕๗


ผบ.ทบ. มอบโอวาทในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงไชยเฉลิมพลปี ๕๗ ให้ทหารรำลึกถึงบรรพบุรุษ ยึดมั่นคำปฏิญาณ น้อมนำพระบรมราโชวาทใช้ปฏิบัติตน/งาน เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ
                 พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบโอวาทให้กับกำลังพลในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงไชยเฉลิมพลเนื่องในวันกองทัพบก ๑๘ มกราคม ๒๕๕๗ ณ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยได้กล่าวถึงความสำคัญของวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก ซึ่งเป็นวันแห่งการน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของบรรพบุรุษที่ได้เสียสละกอบกู้เอกราชของชาติไทย และย้ำเตือนให้ทหารทุกนายได้ตระหนักถึงภารกิจในการพิทักษ์ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีความมั่นคงอยู่คู่กับผืนแผ่นดินไทย พร้อมให้ยึดมั่นรักษาคำปฏิญาณตนที่ได้ให้ไว้ รวมทั้งให้น้อมนำพระบรมราโชวาทปรับใช้ในการปฏิบัติตนและปฏิบัติงาน  เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวมและประเทศชาติ โดยข้อความในโอวาทบางตอนระบุว่า
                 “ วันนี้ถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย และเป็นวันที่ทหารใหม่ทุกนายจะได้เปล่งสัจจะวาจาปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลอันศักดิ์สิทธ์ แสดงถึงความพร้อมเป็นทหารของชาติโดยสมบูรณ์ ที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ที่จะเสียสละแม้เลือดเนื้อและชีวิตเพื่อประกันความมั่นคงและดำรงไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย และความสงบสุขของชาติ จึงขอให้ทุกท่านได้ยึดมั่นและรักษาคำสัตย์ปฏิญาณที่ได้ให้ไว้ทุกขณะ เป็นกำลังสำคัญของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจที่มีขอบเขตครอบคลุมในหลายมิติท่ามกลางภัยคุกคามรูปแบบใหม่ สถานการณ์ และทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไป โดยทำหน้าที่ในความรับผิดชอบอย่างดีที่สุดด้วยความเสียสละ อดทน หนักแน่น มีความรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งในเดียวกัน ปฏิบัติตามระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด พัฒนาตนเองให้มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา  พัฒนาตนเองให้มีความรอบรู้ ทันสมัย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินภารกิจทุกรูปแบบให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลัก ในการประพฤติปฏิบัติตนและการปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับส่วนรวม และความมั่นคงไพบูลย์ให้กับประเทศชาติสืบไป ”
                  ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้อ่านสารของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้มอบความรักความปรารถนาดีมายังกำลังพลของกองทัพบกด้วย
                            ...........................................................................................
                    
ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ. วันที่ ๑๘ ม.ค. ๕๗ จาก พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ.


วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ๗ มกราคม ๒๕๕๗

 คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อสื่อมวลชน
ประจำวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๗  เวลา ๐๙๓๐  ณ  พบ.

สื่อมวลชน      :         มีข่าวลือเรื่องที่เราจะขนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์มาจัดงานวันเด็ก และสวนสนามวันกองทัพไทย
ผบ.ทบ.          :         ข่าวลือก็เป็นข่าวที่ไม่จริง ข่าวที่ไม่จริงเพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเชื่อ  เรามีการเคลื่อนย้ายกำลังพลมาทุกปี และปีนี้ผมบอกแล้วว่าท่านต้องกลับไปดูว่ากองทัพบกกำหนดนโยบายอะไรในงบประมาณปี ๒๕๕๗ เริ่มตั้งแต่ ตุลา ๕๖ ถึง กันยา ๕๗  เป็นเรื่องของการนำพากองทัพไปสู่ความทันสมัย นำพากองทัพไปสู่อนาคต เพราะฉะนั้นในปีนี้เป็นวาระพิเศษซึ่งเรากำหนดไว้แล้วล่วงหน้าว่าเราจะนำยุทโธปกรณ์หรือสิ่งอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เราจัดซื้อมาทันในห้วงนี้ มาให้หน่วยทหาร   ให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่าสิ่งที่เราดำเนินการจัดซื้อจัดหามานั้นมีสมรรถภาพ มีสมรรถนะเพียงใด ขณะนี้รถถังโอพล็อต ยังอยู่ในเรือระหว่างการขนส่ง คาดว่าจะมาถึงหลังจากนี้เล็กน้อย  ในวันนั้นยุทโธปกรณ์ที่มาเป็นยุทโธปกรณ์ใหม่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น บีทีอาร์ หรืออุปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศ เราต้องการให้ประชาชนเห็นว่าเราได้ใช้จ่ายงบประมาณในการจัดซื้อจัดหาจากภาษีต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติมาได้อย่างไร ผมต้องการให้เกิดความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ และข้อสำคัญคือปีนี้เป็นปีแห่งความทันสมัยของกองทัพบก ซึ่งเราต้องพัฒนาอีกมาก  เราจะได้เห็นว่าเรามีอะไรบ้าง อะไรที่ยังไม่มี  เพราะฉะนั้นอย่ามองไปในคนละประเด็น    
สื่อมวลชน      :         ผบ. ดูจากสถานการณ์แล้วเหมือนมีคนยังหวาดหวั่นว่าจะเกิดการรัฐประหารเป็นทางออกสุดท้ายไหม   
ผบ.ทบ.          :         อย่าไปกลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถึง มองไม่เห็น ผมคิดว่าทุกอย่างมีสาเหตุหมดไม่ว่าจะทำอะไรกันก็ตาม อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเรื่องเดียว ทุกเรื่องต้องมีสาเหตุ  ความขัดแย้งเกิดขึ้นต้องมีสาเหตุ ต้องมีเงื่อนไข เพราะฉะนั้นต้องไปหากันให้เจอว่าอยู่ที่ไหน  ถ้าไม่มีเรื่อง ก็ไม่มีเหตุ เหมือนกับ เรื่องอีกากับวัว ถ้ามีแผล อีกาก็มาจิกหลังทุกวัน ถ้าไม่มีแผลก็ไม่มีอีกา
สื่อมวลชน      :         แล้วตอนนี้มีแผลไหมรัฐบาล
ผบ.ทบ.          :         ไม่รู้ ไปตัดสินกันด้วยอะไร ประเทศชาติอยู่ด้วยอะไร  ด้วยกระบวนการ    ศาล ยุติธรรม องค์กรอิสระอะไรก็ไม่ว่ามา ไปว่ามาแล้วก็หาทางแก้ปัญหากันไป  ถ้าเราไม่อยู่กันด้วยแบบนี้  อยู่กันด้วยการแก้ปัญหาผิดวิธีผมว่าจะสร้างปัญหาไปเรื่อยๆ  ผมคิดอย่างนั้น
สื่อมวลชน      :         การชัตดาวน์กรุงเทพจะเกิดความวุ่นวายและอาจจะเกิดการปะทะอะไรอย่างนี้ ผบ. มอง       
ผบ.ทบ.          :         ย้อนกลับดูปี ๒๕๕๓ เกิดอะไรขึ้นมา ทุกคนต้องกลับมาทบทวน  ต้องทบทวนทั้งสองฝ่าย หรือฝ่ายที่สามก็แล้วแต่  ในปี ๕๓ มีสองฝ่าย รัฐบาลกับกลุ่มต่อต้านใช่ไหม  ปีนี้มีรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้าน กปปส. แล้วมีอีกกลุ่มที่เตรียมออกมาอีก มี ๓ กลุ่ม ต่างกับปี ๕๓  ผมบอกอย่างเดียวว่าขออย่าให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นไม่ว่าจะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด  ซึ่งทหารคงต้องดูแลประชาชนทุกพวกทุกฝ่ายไม่ให้บาดเจ็บล้มตาย  ทุกพวกทุกฝ่าย ไม่ได้ดูแลฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ฝ่ายเดียวไม่ใช่  ผมต้องดูแลคน  ทั้งประเทศ  ขอให้เห็นใจตรงนี้ด้วย    
สื่อมวลชน      :         ดูเหมือนจะมีความพยายามอยากจะให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการคุมสถานการณ์ล่วงหน้า   
ผบ.ทบ.          :         ผมคิดว่าทางรัฐบาล ทางนายกรัฐมนตรีท่านเข้าใจ ผมอธิบายในที่ประชุมไป  ผมได้ชี้แจงไปว่าเราเคยใช้มาอย่างไร เพราะเราเป็นคนอยู่ในเหตุการณ์มาทุกครั้ง ทหารจะต้องถูกไปเกี่ยวโยงอยู่ตรงนี้ทุกครั้งไป  ผมชี้แจงว่าเหตุผลและความจำเป็นในการจัดตั้ง ศอ.รส. ในการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เริ่มต้นจากอะไร จากนั้นจะพัฒนาไปสู่การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างไร  การพัฒนาไปสู่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงคือมีความรุนแรงเกิดขึ้นตามลำดับ  ในปี ๒๕๕๓ ก่อนประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นประมาณ ๖ ครั้ง  มีการใช้อาวุธสงครามยิงเข้าที่โน่นที่นี่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าใครทำ เสร็จแล้วถึงมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงออกมา จากนั้นมีการพัฒนาสถานการณ์ไปตามลำดับ  มีเหตุการณ์อีกประมาณ ๒๔ หรือ ๒๖ ครั้ง การใช้อาวุธสงคราม ๒๔ หรือ ๒๖ ครั้ง ถึงมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  จากนั้นหลังจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก ๖๐ กว่าครั้ง  ทั้งหมดมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๓ การใช้อาวุธสงครามหรือการใช้ความรุนแรงด้วยกระสุน วัตถุระเบิดทั้งหมด ๙๖ ครั้ง  วันนี้เกิดขึ้นอะไรกันบ้าง แล้วเกิดจากใคร ต้องไปพิสูจน์ทราบให้ได้  ผมได้นำเรียนทาง ศอ.รส.ไปแล้ว นำเรียนทางรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่าคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นมาในขณะนี้ ใครเป็นคนทำ ต้องชัดเจน จะได้ไม่พัฒนาไปสู่เหตุการณ์ปี ๕๓    ใช่ไหม  ๕๓ เรามีการประกาศใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ไปจบสิ้นด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเดือนตุลาคม  ๙ เดือนเต็มๆ   เพราะฉะนั้นวันนี้ผ่านมา  ๒ เดือน ผมพยายามหยุดไม่ให้ไปสู่จุดนั้น ไม่ให้ยืดยาวไปจนเสียหายต่อประเทศชาติ  เพราะฉะนั้นผมว่าทุกคนต้องกลับมาแก้ปัญหากันให้เจอ  ทุกพวกทุกฝ่าย ผมไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง  ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนไม่ควรใช้ความรุนแรง  เพราะมีแต่จะทำให้บาดเจ็บและสูญเสีย  ผมพูดอะไรก็จะเสียหายหมด เสียหายทุกพวกทุกฝ่าย  แต่ผมจำเป็นต้องชี้แจงเพราะว่าทหารทุกคนดูและฟังคำสั่งผมอยู่  ทหารจะทำหน้าที่ดูแลประชาชน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทหารต้องดูแลประชาชนทุกฝ่าย ทุกพวก ทุกสี  ถ้าท่านไม่เลิกสีผมก็ต้องดูทุกสี มี ๑๐ สี ผมก็ดูคน ๑๐ สี เพราะฉะนั้นขอให้ประชาชนทุกคนเข้าใจด้วย  เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่มีปัญหากัน ใครจะถูก ใครจะผิดก็ไปหาทางกันให้เจอ ให้พบ อย่าเอาผมมาตัดสิน  วันนี้ท่านทำเหมือนคนสอบ ทำข้อสอบอยู่ ต่างคนต่างงงๆ กันอยู่ว่าข้อสอบถามว่าอย่างไร คนจะตอบก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร สรุปว่าไม่เข้าใจทั้งคนออกข้อสอบและนักเรียน เลยจะหากรรมการกลางมาตัดสิน ผมว่าไม่ใช่    
สื่อมวลชน      :         ไหนๆ ความหวาดหวั่นมาถึงขั้นนี้ วันนี้ ผบ.ประกาศ พูดให้ชัดเจนได้ไหมว่า การรัฐประหารจะเกิดขึ้นได้ไหมในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก เอาให้คนในประเทศได้มั่นใจว่า ตอนนี้หุ้นก็ตกไปหมดแล้ว   
ผบ.ทบ.          :         ไม่ได้เกี่ยว ผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับทหาร อยู่ที่พวกคุณกันเอง หุ้นจะตกไม่ตกอย่ามาโทษทหาร  อย่ามาหาว่าทหารจะทำโน่นทำนี่แล้วหุ้นตก ท่านเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง ท่านวาดเรื่องวาดข่าวขึ้นไปแล้วจะให้ผมไปยืนยัน ผมไม่ตอบ ผมไม่ยืนยัน         
สื่อมวลชน      :         ถ้ายิ่งไม่ยืนยันก็ยิ่งเกิดความหวั่นไหวกันใหญ่ว่าคือแค่ข่าวลือ   
ผบ.ทบ.          :         ผมพูดไปเมื่อสักครู่ ๒ , ๓ อย่างอยู่แล้ว ไปหาคำตอบเอา
           
สื่อมวลชน      :         พรรคเพื่อไทยจะออกมากุเรื่องปฏิวัติท่านมองว่า
ผบ.ทบ.          :         ไปตรวจสอบดูว่าจริงหรือไม่จริง ใช่หรือไม่ใช่ไปคอยดู  เป็นแผน ใครจะเขียนก็ได้ วันนี้ใครจะเขียนอะไรก็เขียน ผมดู ผมอ่านแล้วผมก็ขำๆ ดี  อ่านแล้วบางคนก็โมโห บางคนก็ตลก บางคนก็ขำ แล้วแต่อารมณ์  วันนี้ผมว่าโลกไม่ได้มีมืดกับสว่าง มีกลางวันกลางคืน ๒ อย่างหรอก      มีตอนเช้า ตอนหัวค่ำ ตอนกลางวัน  ตอนไหนมืดก็เปิดไฟหน่อย ตอนไหนสว่างเกินไปก็ปิดไฟ  ถ้าท่านทุกคนมาช่วยกันสุมไฟทั้งหมดให้สว่าง ก็จะร้อน ร้อนเกินไป  เอาธรรมะเข้าข่มหน่อย  มีสติ รู้คิด รู้ทำ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงรับสั่งไว้แล้ว
สื่อมวลชน      :         ผบ.รู้สึกกดดันไหม เหมือนทุกคนตั้งความหวังไว้ที่ ผบ.ทบ. จะให้เป็นคนแก้ปัญหาไม่ว่าจะด้วยหนทางใดก็ตาม         
ผบ.ทบ.          :         ทุกคนๆ ต้องช่วยกันแก้ปัญหาไม่ใช่ผมคนเดียว  ถ้าแก้ปัญหาโดยให้ผมเอาองค์กรของผมไปแก้ปัญหาทั้งองค์กร ก็ไม่ใช่  ผมคิดว่าทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหาไม่ว่าจะใคร ทุกภาคส่วน ประเทศไทยมีคน ๖๐ กว่าล้าน มีคนหลายกลุ่ม  ถ้าทุกคนสร้างความเข้มแข็งเกิดขึ้นมาให้ได้ รวมกันให้ได้ รวมพลังกันให้ได้ แล้วหาทางแก้ปัญหาขณะนี้ว่าใครแต่ละพวกแต่ละฝ่ายจะทำอย่างไร อันนี้จะเป็นพลังสำคัญที่จะแก้ปัญหาในภาพรวม  อย่าให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนแก้ปัญหา  องค์กรใดแก้ปัญหา แก้ไม่ได้ เพราะวันนี้ปัญหามีความสลับซับซ้อนหลายอย่าง  ผมคิดว่าวันนี้ทหารทำดีที่สุดแล้ว คือการทำให้สถานการณ์หยุดนิ่งอยู่กับที่  อาจจะรำคาญบ้างเล็กน้อย  แต่อย่าใช้ยาแรง ผมบอกแล้ว  เป็นไข้เล็กน้อย วันนี้ก็อาจจะเติมยาไปสักหน่อย ยาเพิ่งใช้ยาแรง ยาแรงแล้วอันตราย   
สื่อมวลชน      :         มีเงื่อนไขใดที่จะทำให้ใช้ยาแรงไหม อย่างเช่นมีกลุ่มทั้ง ๒ กลุ่มมาปะทะกัน    
ผบ.ทบ.          :         ผมไม่ตอบ เป็นเรื่องของสถานการณ์ ผมตอบไปแล้ว  ใครก็ไม่อยากทำให้ประชาชนบาดเจ็บเสียหาย        
สื่อมวลชน      :         ในส่วนของ ผบ.ตร. ได้มีการขอให้กองทัพจัดกำลังไปช่วยเหลือหรือไม่
ผบ.ทบ.          :         เป็นข่าวใหญ่โต  ๓๐ , ๔๐ กองร้อย ออกไปดูแลตามกฎหมาย  ท่านไม่ออกได้ไหม  เห็นมีหมดทุกเหล่าทัพ ไม่ใช่ทหารบกอย่างเดียว ทหารเรือ ทหารอากาศก็ไป  ไปดูแลสถานที่ ไปดูแลประชาชนให้ปลอดภัย  ไม่ได้ไปปราบปรามประชาชน ไปดูแลประชาชนให้ปลอดภัย มีแพทย์ พยาบาล ชุดประชาสัมพันธ์ ชุดถ่ายภาพ เก็บภาพให้หมดใครทำถูกทำผิดมา จะได้เลิกอ้างกันเสียที
ไปไหนหมด
สื่อมวลชน      :         แล้ววันนั้น ผบ.ได้ถามคุณธาริตไหม ความคืบหน้ากรณีตั้งแต่ปี ๕๓     
ผบ.ทบ.          :         ผมก็บอกให้ติดตาม วันนี้ก็ต้องคลี่คลาย  ปีนี้ก็มีคดีมากขึ้น คดีมีทุกวัน เพราะว่ากฎหมายฉบับเดียวกัน อธิบดีก็คนเดียวกัน ความผิดก็เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นถ้าจะเคลียร์ปีนี้ เคลียร์ ๕๓ ให้ผมด้วย ไปเคลียร์ให้จบทั้งสองอันจะได้เลิกกัน ถ้าไม่อย่างนั้นไม่ได้เลิกกันเสียที   
สื่อมวลชน      :         ผบ.มองการปิดกรุงเทพจะส่งผลอะไรต่อ
ผบ.ทบ.          :         คอยดูก็แล้วกันว่าจะเกิดอะไร ผมก็จะคอยดูอยากรู้เหมือนกัน ต้องมีการประเมินสถานการณ์ หวังแต่เพียงอย่างเดียวว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น  หวังว่าการแก้ปัญหาหรือว่าความขัดแย้งจะไปได้ด้วยดี ทั้ง ๒ ฝ่ายมีทางออกร่วมกัน   มีใครหวังจะให้ฆ่ากันตายบ้างอยากจะรู้  หรือจะต้องหวังให้ฆ่ากันตายให้หมด  เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นคนนั้นจะต้องรับผิดชอบ จำไว้ จะพวกไหนก็แล้วแต่ จะออกมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าออกมาเมื่อไหร่ ประชาชนตีกันเมื่อไหร่ มีการบาดเจ็บล้มตาย มีจลาจลเกิดขึ้นมา  ใครรับผิดชอบ  รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ หลักการต้องเป็นหลักการ    
สื่อมวลชน      :         ถึงเวลานั้นคือทหารต้องออกมาระงับการปะทะกันด้วยไหม      
ผบ.ทบ.          :         เขาสั่งผมหรือยัง  ผมมีหน้าที่ตามกฎหมาย  มาตรา ๗๗ เขียนไว้ว่าอย่างไร  รัฐมีทหารไว้ทำอะไร  รัฐนะ  ดูตรงคำนำก่อนอย่าไปมองว่าเฉพาะอ่านคำว่าทหาร  รัฐมีเจ้าหน้าที่ทหารไว้ทำอะไร  เริ่มต้นด้วยรัฐทั้งหมด  เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต่างๆ เริ่มคำว่ารัฐหมด         

..............................................
          แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก


คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อสื่อมวลชน
ประจำวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖  เวลา  ๑๔๒๐  ณ  หอประชุมกิตติขจร

สื่อมวลชน      :         วันนี้ท่านได้สั่งการอะไรในการประชุม นขต.ทบ.
ผบ.ทบ.          :         วันนี้เป็นการประชุมประจำเดือนตามปกติ แต่เป็นวาระพิเศษมีผู้บังคับหน่วยระดับกรมและกองพันมา  ปีหนึ่งจะมีประมาณ ๓ ๔ ครั้งที่เอาผู้บังคับกองพันมา  เป็นเรื่องของการสรุปการปฏิบัติงานประจำปี  กองทัพบกทำงานทั้ง ๖ สายงาน  ตั้งแต่กำลังพล ข่าว ยุทธการ ส่งกำลัง กิจการพลเรือน ปลัดบัญชีทหารบก งบประมาณ ต้องสั่งงานทั้ง ๖ สายงาน สรุปทั้ง ๖ สายงาน แล้วสรุปงานว่าเราจะขับเคลื่อน ๗ ส่วนกองทัพบกไปได้อย่างไร ทั้งส่วนกำลังรบ สนับสนุนการช่วยรบ การช่วยรบ  วันนี้เป็นการสรุป แล้ว ผบ.ได้สั่งงานในทุกๆ เรื่อง  ขอบใจเขา ขอบคุณเขา  วันนี้เป็นวันแห่งเกียรติยศ มีมอบรางวัลทั้งหมด ๙ ประเภท ๙เรื่อง ทั้งกีฬา ทั้งแข่งขันยิงปืน การแข่งขันทางยุทธวิธี การฝึกศึกษา จัดรางวัลให้เขา  ปีหนึ่งมีการทดสอบ ๒ ครั้ง  เมื่อเช้ามีพิธีการมอบรางวัลและการประดับเครื่องหมายการสำเร็จการผ่านการทดสอบหลักสูตรหน่วยทหารทรหด รุ่นที่ ๒  เราทำพิธีไปให้สมเกียรติ ให้เขาภูมิใจ ว่าเขาได้มาทำงานต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง ได้มารับรางวัล รับใบประกาศจากมือผู้บังคับบัญชาระดับสูง เป็นสิ่งที่เขาจะได้ภาคภูมิใจ เพื่อจะรองรับสถานการณ์ในอนาคตในเรื่องของภัยคุกคาม ในเรื่องของการป้องกันประเทศ  เราต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาให้ได้ เพื่อจะให้กองทัพแข็งแรง  สิ่งที่ผมฝากไว้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้หมด เพียงแต่ว่าจะพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน  จะเห็นว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปทุกวันๆ  มีความสลับซับซ้อนเป็นพลวัต  วันนี้เราเป็นศูนย์รวมกำลังแห่งฝ่ายความมั่นคง ที่จะต้องยืนหยัดให้ได้ในท่ามกลางมรสุมหลายๆ ด้าน งานเราก็ยังเดินอยู่  ผมบอกแล้วว่าวันนี้สถานการณ์เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนไทยทุกคน เพราะฉะนั้นพยายามอย่าเอาทหารไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง  ทหารเป็นทหารของชาติ ของประชาชนอยู่แล้ว เป็นทหารที่จะต้องดูแลสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนโดยรวมอยู่แล้ว  วันนี้มีความขัดแย้ง มีความขัดแย้งกันอยู่  ผมคงไม่อาจไปก้าวละเมิดล่วงในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐได้  อีกส่วนหนึ่งผมไม่สามารถจะไปทอดทิ้งประชาชนได้  ขณะเดียวกันก็มีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากซึ่งอยู่ตรงกลางอยู่ หรืออยู่ตรงไหนก็ไม่ทราบ  พร้อมจะขับเคลื่อนออกมาอีกเหมือนกัน  เพราะฉะนั้นเราต้องทำอย่างไร เหมือนกับผมกำลังนำพากองทัพเดินไปบนเส้นทางสักเส้นทางหนึ่งซึ่งเส้นทางข้างหน้าคือประเทศชาติ ความสงบสุข   คนยังต้องอยู่ต้องกิน เศรษฐกิจต้องเดิน ประเทศชาติต้องได้รับการยอมรับ อันนี้คือถนนเส้นทางตรงที่กำลังเดินไปข้างหน้าอยู่ด้วยกัน  ผมมี กองทัพอยู่ ๒ แสนกว่าคน  ผมต้องนำพาคนเหล่านี้เดินถนนเส้นนี้ไปให้ได้ แล้วนำพาชาติ ประชาชนไปให้ได้  ไปเจอทางแยก ตอนนี้ผมกำลังอยู่ตรงทางแยก  ทางตรงนั้นอาจจะไกล อาจจะไปได้ยาก ไปไม่ได้  ผมจะไปซ้ายก็ไปไม่ได้อีก  ไปขวาก็ไปไม่ได้อีก  เพราะฉะนั้นผมจะทำอย่างไรให้ซ้ายกับขวา เหมือนกับเอาไฟแดงให้หยุดกันทั้งคู่ก่อน  เปิดไฟแดงไว้ทั้งสองทาง แล้วเราไปตรงนี้ก่อน ให้สถานการณ์สงบลง ให้ผ่านช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วนก่อน  เพราะฉะนั้นขอร้องว่า ขออย่าเอาทหารไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง  ถ้าบอกว่าถ้าผมไม่สนับสนุนด้านนี้ ผมไม่รักทางด้านนี้ คงไม่ใช่แบบนั้น  อย่างที่ผมบอกแล้วไม่ได้มีซ้ายกับมีขวาแต่มีข้างหน้ากับข้างหลังอีก  เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามที่จะนำพาทั้งหมดไปให้ได้ด้วยความปลอดภัย นั่นคือหลักการของผม  ขอร้องพวกเราทุกคนว่าจะช่วยกันทำอย่างไร  วันนี้ผมไม่ได้นิ่งนอนใจเลย  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มีความไม่เข้าใจกันมา ผม พยายามทำทุกอย่าง แต่ต้องเข้าใจว่าผมพูดอะไรมากคงไม่ได้  ผมเป็นห่วงประเทศชาติ  วิธีการจะแก้ปัญหาเป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งคงต้องแก้กันให้ได้  วันนี้ถ้าต่างฝ่ายต่างพูดกันไม่ตรงกันอยู่แบบนี้จะไม่มีใครแก้ปัญหาได้  ผมจะทำอะไรออกไปก็คงไม่ได้ถ้าไม่เห็นชอบร่วมกัน  วันนี้ ผมใช้คำว่าทหารกำลังสร้างสภาวะแวดล้อมให้ประเทศชาติปลอดภัย เพื่อให้ไปสู่กระบวนการในการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี  ฟังแล้วดูดี เป็นยุทธศาสตร์ข้อ ๘ ด้วย  ภาคใต้เขาใช้วิธีนี้  คือสร้างสภาวะแวดล้อมให้ปลอดภัย ให้ทุกส่วนราชการเขาทำงานได้ ให้ทุกคนมีความพึงพอใจ   ซึ่งวันนี้ยังไปไม่ได้ถึงตรงนั้น  แต่ผมคิดว่าด้วยความเป็นคนไทย ด้วยความสนับสนุนของพวกเราทุกคน   ทั้งกลุ่ม คปท. กปท.  คนกลุ่มใหญ่มีความปรารถนาดีในการจะแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง แต่มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งชอบใช้ความรุนแรง ตรงนี้ อาจจะคิดว่าถ้าไม่ทำแรงก็ไม่จบ ไม่ทำแรงก็ไม่ชนะ ใช้วิธีการเหมือนปี ๕๓  วิธีการเคลื่อนที่เข้าหาเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างเหมือนหมด  ผมไม่รู้คนพวกนี้  ๕๓ ทำด้วยหรือเปล่า  ผมไม่ตำหนิใคร  แต่คนส่วนนี้ทำให้เกิดความรุนแรง ไม่ควรทำ  ส่วนที่สองผมมาดูคลิป เจ้าหน้าที่อาจจะมีอารมณ์ อาจจะไม่ชอบ อาจจะอึดอัด  นั่นแหละคือสิ่งที่กองทัพบกพยายามมาโดยตลอด เพราะเวลาเอาทหารไปทำงานต้องเรียนรู้ ต้องสอนเขา  ต้องอดทนเขาจะขว้างหิน เขาจะทุ่มอะไรใส่เราต้องอดทน ยอมเจ็บ ยอมปวด  ไม่อย่างนั้นความขัดแย้งจะขยายไปเรื่อยๆ  แต่เจ้าหน้าที่บางคนทนไม่ไหว จึงมีภาพความรุนแรงเกิดขึ้น  ทั้งเจ้าหน้าที่ กลุ่มผู้ชุมนุม  ผมอยากจะขอร้องคนส่วนนี้ซึ่งเป็นส่วนน้อยในส่วนใหญ่  อาจจะมีเจ้าหน้าที่บางนายอารมณ์รุนแรงไปตอบโต้ ไปทุบรถเขา ท่านทราบดีอยู่แล้ว  อีกพวกหนึ่งก็เอาล่ะพวกนี้ทำเราก็ต้องไปสู้เขา เลยกลายเป็นการสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งกับประชาชนส่วนหนึ่งในส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้ส่วนใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเสียหาย  เพราะฉะนั้นท่านจะทำอะไรก็ตามในการเคลื่อนไหวทางการเมืองผมว่าในวิธีการที่สงบน่าจะได้ ทุกประเทศเขาก็พยายามทำกันอยู่  เพราะว่าท้ายสุดคนบาดเจ็บสูญเสียไม่ใช่คนเหล่านี้  คนที่อยู่ข้างหลังจะเจ็บจะตายทีหลังโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่รู้ใครยิงเข้ามา ไม่รู้ใครขว้างอะไรใส่  ผมบอกลูกน้องจะไปทำอย่างนั้นกับเขาไม่ได้ เขาจะยิงอะไรมาก็ยิงกับเขาไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนไทย เขาเป็นประชาชนคนไทยด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ  จะโกรธจะเกลียดอย่างไร แต่เราเป็นเจ้าหน้าที่เพราะฉะนั้นต้องมีความอดทนมากกว่าคนปกติ  คุยกันได้ไหมว่าอย่าเข้าไป อยู่ข้างนอกก็พอ ผมไม่ได้ชี้ช่อง แต่ผมพูดถึงนี่คือกระบวนการการต่อสู้ด้วยประชาธิปไตย แต่ต้องด้วยความสงบ ไม่ละเมิดกฎหมาย ไม่ทำให้เจ้าหน้าที่เขาเสียหาย  ถ้าผมไม่พูดตำหนิเจ้าหน้าที่เลยกลายเป็นว่าผมไปเข้าข้างนี้อีก  ถ้าผมตำหนิเจ้าหน้าที่ กลายเป็นว่า ผมไม่เป็นธรรม  เพราะฉะนั้นผมจะยืนหยัดอยู่ในความเป็นธรรม  ทหารจะทำหน้าที่ดำรงความเป็นธรรมให้ได้  ผมให้บันทึกทั้งหมดว่ามีภาพความรุนแรงที่ไหน อย่างไร ใครทำอะไร แล้วพอจบเหตุการณ์ต้องสอบสวนกันให้ได้  ที่ผ่านมาปี ๕๓ ไม่มีใครสอบให้เรา  วันนี้คดีทุกคดีทหารยังไม่มีใครตั้งเรื่องให้เราเลยผมอยากจะบอกให้  เพราะฉะนั้นเดี๋ยวกลายเป็นว่าผมไม่ได้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกน้องผมเลย 
สื่อมวลชน      :         ผบ. มองว่ารูปแบบเหมือนปี ๕๓ แล้วผลลัพธ์จะออกเหมือนปี ๕๓ ไหม
ผบ.ทบ.          :         ถ้าไม่ใช้ความรุนแรงอย่างที่ว่าเมื่อสักครู่  ถ้าอีกฝ่ายไม่ไปยั่วยุ อีกฝ่ายไม่ไปบุกรุก เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้  ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนก็ประท้วงอะไรก็ว่ากันไป  อย่าไปคิดว่าการแก้ปัญหาจะทำได้เร็วมากนัก บางทีการแก้ปัญหาโดยเร็วเกินไปจะทำให้เกิดปัญหา  การปฏิบัติงานท่านก็รู้อยู่แล้วว่าถ้ามีคนกลุ่มหนึ่งไปใช้ความรุนแรงไปทำให้ประชาชนเขาเกลียดชังจะทำให้รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำงาน ถูกไหม  เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีคนเหล่านี้ออกมาใช้ความรุนแรง มาขว้าง มาทุ่ม เตะเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่เขาก็ทำอะไรไม่ได้  ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องไม่ไปตีประชาชน  พอเสร็จแล้วท้ายสุดก็ต้องมี  ความรุนแรงเกิดขึ้น ลุกลามไปสู่การใช้อาวุธ  เมื่อวานนี้ยังไม่รู้ใครใช้เลย  สิ่งเหล่านี้ต้องพิสูจน์มาให้ได้โดยเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเอาออกมา  ว่าใครที่เอาปืนพกไปยิงอยู่บนตึก  แม้กระทั่งที่รามคำแหงก็ต้องมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าอะไรอย่างไร ใครทำ มาจากไหน ใครสอนใครสั่งมา ใครให้ทำ  ต้องสอบให้ชัดเจนจะได้ไม่เกิดขึ้นอีก  สิ่งที่ผมจะพูดคือ  ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพ  จะได้ไม่ขยายความขัดแย้งออกไป  แต่ถ้ายังไม่เคลียร์ ก็โทษกันไปโทษกันมา  เลยสรุปว่าที่จะดีกันอยู่เลยไม่ดีกันอีก เกิดเกลียดกันมากขึ้นไปกว่าเดิม   
สื่อมวลชน      :         ถามในภาพรวมนิดหนึ่ง ที่ ผบ.บอกว่าต้องเปิดไฟแดงให้ทั้งสองฝ่ายแล้ว ผบ.จะเดินไปคือแนวทางอะไร           
ผบ.ทบ.          :        ผมเดินทำงานของผม  ไฟแดงคือผมไม่ไปขยายความขัดแย้ง  ผมไม่ไปใช้ความรุนแรง  ผมเสนอแนวทางสันติวิธี  ผมไม่ไปสนับสนุนในเรื่องของการใช้กำลังเข้าไปปราบปราม ถ้าประชาชนเขาไม่ได้ใช้ความรุนแรง ไม่มีการใช้อาวุธ  ผมพยายามหยุดตรงนั้น ไม่ให้เกิด                  
สื่อมวลชน      :         แนวทางการปฏิรูปกับการเลือกตั้งจะเดินไปคู่ได้ด้วยกันไหม
ผบ.ทบ.          :         ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายจะยินยอมกันหรือเปล่า  ผมตอบอย่างนี้ดีกว่า  ถ้าทำได้ ข้อตกลงพอใจกันทั้งสองฝ่าย ก็เลือกตั้งได้  ถ้ายังไม่พอใจก็เลือกตั้งกันลำบาก   
สื่อมวลชน      :         ผบ.เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูปไหม
ผบ.ทบ.          :         ประเทศไทยต้องปฏิรูปหมด ทุกเรื่องท่านรู้ดีอยู่แล้วปฏิรูปทุกด้าน การเมือง กระบวนการทั้งหมดต้องปรับไปสู่ความทันสมัยแบบสากล เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ผมว่าไปกันลำบาก  ประชาธิปไตยคือ ใครรักใครชอบใครก็ไปอย่างนั้นแล้วสนับสนุนได้ทุกวิถีทาง  เอาประเทศชาติเป็นหลัก 
สื่อมวลชน      :         ผบ.พูดให้ชัดๆ ได้ไหมครับว่าสถานการณ์ในขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ความขัดแย้ง แนวทางการแก้ไขของท่านจะเป็นอย่างไร
ผบ.ทบ.          :         ตอนนี้ให้ทุกคนไปพักผ่อน สวดมนต์ปีใหม่ ให้ใจเย็นๆ ลงสักหน่อยหนึ่ง แล้วไปกราบคุณพ่อคุณแม่  ตอนนี้อย่าเพิ่งจับกุมดำเนินคดีกันเลยก็แล้วกัน ให้กลับไปกราบพ่อกราบแม่ก่อน  ผมบอกแล้วว่ากฎหมายมันอันตราย  ใช้มากก็อันตราย ใช้น้อยก็อันตราย เสร็จแล้วคนก็ไม่นับถือ คนก็ไม่เคารพกฎหมายกันแล้วยิ่งไปกันใหญ่ผมว่า 
สื่อมวลชน      :         ผบ. กรณีที่ตอนนี้ตำรวจเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้ารัฐบาลร้องขอให้ทหารออกมาดูแลสถานการณ์แทน คือแทนตำรวจทั้งหมดเราพร้อมไหม
ผบ.ทบ.          :         สถานการณ์เขาเรียกเป็นการพัฒนาสถานการณ์  การพัฒนาสถานการณ์คือการพัฒนาไปสู่ ตั้งแต่ ศอ.รส. ไป ศอฉ. กฎหมายก็ต้องเพิ่มใช่ไหม เป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ทั้งหมดไม่ใช่ทหาร รัฐบาลรับผิดชอบเหมือนเดิม  จะมีใครเจ็บใครตายรัฐบาลต้องรับผิดชอบ  รัฐบาลที่แล้วรับผิดชอบอยู่ไม่ใช่หรือ  เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ถ้าเกิดขึ้นมาอีก รัฐบาลนี้ต้องเป็นคนรับผิดชอบ สื่อมวลชน     :         เพราะฉะนั้นปิดประตูเรื่องของรัฐประหาร
ผบ.ทบ.          :         ไม่ปิด ไม่เปิด  ไม่มีปิดมีเปิดอยู่แล้ว  สถานการณ์ทุกสถานการณ์อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น  ถ้าเกิดขึ้นมาสถานการณ์เป็นตัวกำหนด  แต่ท่านน่าจะให้กำลังใจกองทัพว่าเราพยายามยืนในบทบาทที่เหมาะสมอยู่  พยายามที่จะไม่ไปใช้อำนาจนอกระบบ ไม่ใช้กำลัง  พยายามจะให้ใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาด้วยการพูดคุย ด้วยการพบปะ ด้วยการอะไรต่างๆ จะเกิดได้หรือไม่ได้ เวลาเป็นตัวแก้ไข        
สื่อมวลชน      :         ปัญหาจะยุติอย่างไร
ผบ.ทบ.          :         ต้องไปถามทุกคน ถามคนไทยทุกคนจะยุติอย่างไร ถามทุกพวกทุกฝ่าย ถามพวกที่ไม่ได้ออกมาด้วยว่าจะหยุดอย่างไร  ไม่ใช่วันนี้มีพวกนี้อยู่  อีกพวกอยู่อย่างนี้ มีทหารอยู่อย่างนี้      มีตำรวจอยู่อย่างนี้ อีกพวกอยู่บ้านบอกเตรียมออกมาอีกแล้ว             แล้วจะทำอย่างไร ไปถามพวกนั้นด้วย
สื่อมวลชน      :         ได้คุยกับท่าน ผบ.ตร.ไหม เมื่อวานเห็นมีภาพทหารกับผู้ชุมนุมไปตรวจรถตำรวจ
ผบ.ทบ.          :        ไม่ใช่ คุณไม่เห็นมือเขาหรือ  เขาไปกันอยู่อย่างนี้ แล้วกลายเป็นว่าทหารไปร่วมเขาตรวจค้นไม่ใช่  เขาไปกันประชาชนไม่ให้ขึ้นบนรถตำรวจ  พอภาพออกมาอธิบายไปคนละอย่างสองอย่าง ผิดไปหมด  เมื่อวานผมยังสั่งการไปเลย มีประชาชนเข้าไปเดินลุยเข้าไปหาทหาร เสร็จแล้วเจอทหาร สวัสดีครับพี่ครับ จับมือกัน เสร็จแล้วหันหน้าไปตีตำรวจ  ผมเลยบอกไม่ถูก ไม่ได้ ต้องบอกให้เขาหยุด อย่าไป  ลูกน้องเขาก็ไม่ค่อยกล้าพูด  เดี๋ยวจะกลายเป็นอะไร ความไม่เข้าใจกันระหว่างทหารกับตำรวจ  ยิ่งทหารกับตำรวจทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้ว พี่น้องกันทั้งหมด  แต่ตำรวจก็ต้องมีคนมีอารมณ์ แต่จะทำอย่างนั้นไม่ได้  ที่ไปทุบรถเขา อะไรเขา  ประชาชน  ถึงอย่างไรก็ทำไม่ได้เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ เราต้องปลูกฝังลูกน้องเราให้ได้แบบนั้น  ปี ๕๓ เราถูกขว้างก้อนอิฐก้อนเท่านี้ ผมไม่ได้บอกให้ลูกน้องขว้างกลับไปเลย 
สื่อมวลชน      :         ได้มีการพูดคุยกับท่าน ผบ.สูงสุดไหมเรื่องการที่นายกจะให้สร้างสภาปฏิรูปและเชิญผู้นำเหล่าทัพ         
ผบ.ทบ.          :         เขาเสนอมาเป็นแพ็คเกจเฉยๆ ว่าจะเป็นอย่างไร เอาราชตฤณมัยสภาสมัยเมื่อปี ๑๕ , ๑๖ มาเป็นหลักการก่อน  แล้วท่านเขียนให้เขาดู พอท่านเขียนแล้วท่านกลายเป็น ผบ.สูงสุด เป็นหัวหน้าไม่ใช่  เป็น ๑ ใน ๑๑ คน  คนที่ว่าจะใช่หรือเปล่ายังไม่รู้เลย  อีกพวกบอกทำไมมีแค่ ๑๑ ทำไมไม่มีมากกว่านั้น  ภาคอื่นไปไหนอยู่ไหน  ยังไม่เกิดอะไรสักอันแค่นี้ก็ตีกันจะตายอยู่แล้ว             
สื่อมวลชน      :         ปัญหาภาคใต้
ผบ.ทบ.          :         วันนี้ทุกอย่างเดินไปได้ด้วยดี  วันนี้การพูดคุยมีหลายกลุ่มเข้ามาร่วมด้วย       มีหลายกลุ่มที่ทำให้การเปิดเผย ทำในทางลับ  โครงการพาคนกลับบ้านก็ทำอยู่  วันนี้ทหารลงไป     วางกำลังอยู่บนเทือกเขาบูโดได้เรียบร้อยแล้ว ตามแนวทางใหม่ที่ผมได้กำหนดไป  แล้วการจัดกำลังทหารไปอยู่ใน ๑๓๖ หมู่บ้าน ในพื้นที่ ๑ , ๒ , ๓  การปรับกำลังอาสาสมัคร พลเรือน ตำรวจ ทหาร ไปรับมอบเป็นจ๊อบๆ ให้ชัดเจนขึ้น โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า  ทุกอย่างคืบหน้าไป ทหารหรือฝ่ายความมั่นคงจะมีหน้าที่รักษาสภาวะแวดล้อมให้ปลอดภัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำงาน  การแก้ปัญหาทุกอย่าง ความขัดแย้งแบบนี้รบกันไม่ชนะ รบกันอย่างเดียวไม่มีวันชนะ       
สื่อมวลชน      :         เราแก้ปัญหามา ๑๐ ปีแล้ว ผบ.พอใจในเรื่องการดำเนินการ             
ผบ.ทบ.          :         ถ้าถามว่าพอใจไหม ก็ไม่พอใจหรอก เพราะมีคนเจ็บคนตาย แต่ถามว่าก้าวหน้าไหม ก้าวหน้า  เราต้องใจเย็นๆ นิดหนึ่ง  เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศเขา  ๕๐ ปี ๑๐๐ ปีเขายังแก้ไม่ได้เลย อย่าไปคิดอย่างนั้น  เราต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาที่สะสมมายาวนาน

..............................................
          แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก


คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อสื่อมวลชน
ประจำวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖  เวลา  ๑๒๐๐  ณ  ห้อง ๒๒๑ บก.ทบ.

สื่อมวลชน      :         จากเหรียญรางวัลที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ดูแล้วพอใจไหมมีการพัฒนาอย่างไรต่อไป
ผบ.ทบ.          :         ต้องใช้คำว่าพอใจเพราะมากกว่าครั้งที่ผ่านมา อย่างที่ผมเรียนไปแล้วว่า ผมพูดก่อนวันที่เขาไปว่าให้กำลังใจเขา แล้วให้เขามุ่งหวังว่า คืออย่าไปหวังเหรียญอื่นไปแล้วต้องหวังเหรียญทองเท่านั้น แต่ต้องตั้งความหวังทุกคนไว้ขนาดนั้น และวันนี้ก็เป็นวันแห่งเกียรติยศของพวกเราทุกคน ผมถือว่ากองทัพบกได้รับชื่อเสียงเกียรติยศไปด้วย และข้อสำคัญคือคนไทยทุกคนมีความสุขจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในครั้งนี้ที่ประเทศเมียนมาร์  ฝากเขาไว้ว่าเขาต้องดูแลตัวเขาเองต่อไปในอนาคตเพื่อการแข่งขันในครั้งต่อๆ ไปซึ่งมีอีกมากมาย การแข่งขันกีฬาเอเซียนเกมส์ที่จะมาในอนาคต เป็นกีฬาอีกระดับหนึ่ง  เขาต้องพัฒนาตัวเอง  สิ่งสำคัญคือว่าควบคุมดูแลตัวเอง สร้างวินัยให้ตัวเองให้ได้  การเป็นนักกีฬาที่ดีนั้นสำคัญคือร่างกายและจิตใจ  ถ้าร่างกายเข็งแรง เข้มแข็ง จิตใจดี สามารถไปสู่ความสำเร็จได้ แต่ถ้าทุกคนไม่ดูแลตัวเองปล่อยปละละเลย  ผมว่าร่างกายไม่สมบูรณ์  การได้เหรียญทองก็ไม่มีความหวัง  ความสุขของคนไทยก็ลดลง  เพราะนั้นเราก็คาดหวังว่าอยากให้คนไทยมีความสุขมากขึ้นในการแข่งขันของชาติในครั้งต่อไป 
สื่อมวลชน      :         เราจะมีการพัฒนาประเภทกีฬาอื่นๆ ที่เป็นทหารบกไปแข่งบ้างไหม
ผบ.ทบ.          :           อันนี้เราเตรียมนักกีฬาไว้ให้  มีสองอย่าง เราจะคัดเลือกนักกีฬาไว้ให้  เพื่อให้สมาคมกีฬาต่างๆ  เขาเอานักกีฬาเหล่านี้ไปคัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง  อันที่สองคือดูแลนักกีฬาที่ไปแข่งขันในนามของทีมชาติ  มาบรรจุเป็นทหาร  เราจะได้มีงบสวัสดิการ  มีเงินเดือน  มาดูแลเพื่อเป็นค่าครองชีพเขา  เราคงไม่ให้เป็นเงินก้อน  แต่เราบรรจุเขาเป็นนักกีฬากองทัพบก  ในกีฬากองทัพบกเขาจะมีหน้าที่ช่วยฝึกสอน  ช่วยแนะนำนักกีฬาใหม่ๆ ของเรา  แต่เมื่อถึงเวลาไปแข่งขันเขาก็ไปแข่งขันในนามของประเทศชาติ  เงินรางวัลต่างๆ  ซึ่งทางสมาคมกีฬาให้ก็เป็นเรื่องของเขา  ส่วนกองทัพบกเป็นขวัญกำลังใจเขา  แต่เราดูแลเขาอยู่แล้วคือ การบรรจุเข้าเป็นทหารต้องมีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยง มีสวัสดิการ เหมือนกับทหารคนอื่นๆ เหมือนกัน  เขาทำอย่างเดียวคือเป็นนักกีฬา
สื่อมวลชน      :         เรียนถามเรื่องบทบาททหารในการเทิดทูนสถาบัน ในขณะนี้ที่ ผบ.ทำงานอยู่เรามีการเพิ่มจุดใดให้ประชาชนได้เรียนรู้ รับรู้สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มดำเนินการโครงการต่างๆ
ผบ.ทบ.          :           วันนี้เราทำทุกอย่าง  การสร้างการรับรู้อาจจะต้องเป็นแนวใหม่คือให้เขาได้เห็นความสำเร็จวันนี้ย้อนมาจากตรงไหน  วันนี้ถ้าเรามองแต่ด้านความสำเร็จอย่างเดียวโดยที่ไม่ดูเลยว่าเป็นมาเป็นไปอย่างไร  พระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มไว้อย่างไรตั้งแต่แรก  พื้นที่เหล่านี้แต่ก่อนเป็นอย่างไร แห้งแล้ง ยากจนอย่างไร แล้ววันนี้พัฒนามาสู่ความเจริญยั่งยืนแบบนี้ด้วยอะไร อันนี้เราต้องย้อนกลับ ต้องให้เขาเข้าใจตรงนี้  วันนี้กองทัพบกทำในทุกมิติ การสร้างความเข้าใจ  อยู่ในยุทธศาสตร์ของกองทัพบกอยู่แล้วซึ่งเข้ากับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ในการสร้างความรักสามัคคี และพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน  ทั้งการสร้างความเข้าใจ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ และข้อสำคัญคือสร้างความรักความสามัคคี  วันนี้ให้นโยบายไปว่าปีนี้เราจะเร่งทำในเรื่องของศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงประจำพื้นที่ ประจำตำบล หมู่บ้าน โดยเราไม่ต้องไปสร้างเอง เราไปหาประชาชนหมู่บ้าน คือใช้วิธีการเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำแล้วได้ผลเราจะไปดูแลไปสนับสนุน ไปสร้างกระบวนการของเขาให้ขยายไปยังหมู่บ้านต่างๆ ทุกครัวเรือนให้ได้ เราเร่งรัดเรื่องนี้อยู่  ในส่วนอื่นๆ นั้นผมคิดว่าต้องไปสอดคล้องกับกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ที่มีหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว ประสานเพื่อให้คำแนะนำ ให้แนวทางแสวงหาแนวร่วมในการบูรณาการทุกภาคส่วนมาช่วยกันตรงนี้  ในส่วนของเรื่องการจงรักภักดี  ทุกคนจงรักภักดีกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับพระราชวงศ์อยู่แล้ว  แต่อาจมีคนที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง  ต้องไปดูว่าเขาทำไปเพราะอะไร  บางคนทำไปด้วยเหตุผลส่วนตัว ด้วยการสร้างความขัดแย้ง เกี่ยวพันไปหมด เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดี  ขณะนี้เราทำไปทุกมิติ อันแรกคือสร้างความเข้าใจ  อันที่สองคือในเรื่องของการละเมิดอะไรต่างๆ ทั้งทางเว็บไซต์  ในส่วนของการพูด  การสร้างวิทยากรเพื่อไปพูดในชุมชนต่างๆ  มีอยู่ส่วนน้อยเท่านั้น  คนเหล่านี้ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด ทำให้กฎหมายเสียหาย  เราคือคนไทยด้วยกัน   เรื่องอะไรก็ตาม  ผมคิดว่าเราควรจะมีการพูดจา  มีการทำความเข้าใจ  มีการหาข้อขัดแย้งให้เจอกัน  หาเหตุผลมาเพราะอะไรถึงทำ  วันนี้เราใช้วิธีการสร้างความเข้าใจ  ใครละเมิดสถาบันเราส่งคนไปพบไปดูแล  เราไม่ใช่ทหารไปคนเดียว  มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย ไปพบปะเขา ถามเขา ส่วนใหญ่เขาบอกว่าไม่ได้เจตนาไม่ตั้งใจ นั่นคือสิ่งที่เราเจอ  อีกส่วนหนึ่งก็มีความเข้าใจผิดว่าสถาบันลงมาเกี่ยวข้อง  ซึ่งผมให้ชี้แจงไปว่าไม่ใช่  ไม่จริง  ท่านไม่เคย  ท่านเป็นของคนไทยทุกคน  คนไทยไม่ว่าจะสีไหนพวกไหนล้วนเป็นคนไทย แต่อาจจะไม่เข้าใจอยู่บ้าง ต้องใช้เวลา  ใช้ความอดทนในการสร้างความเข้าใจไป  สิ่งหนึ่งที่เราต้องระมัดระวังคือการใช้กฎหมายที่มากเกินไป  บางครั้งอาจเกิดแนวร่วมมุมกลับ  เราพยายามจะอดทนและใช้ความเข้าใจ  ทุกคนต้องอดทน  ทุกคนรู้ว่าใครทำผิดทำถูกตรงไหน รู้หมด  ถ้าทุกคนยังเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่  ไปไม่ได้แน่นอน  คนไทยต้องกลับมาพูดคุยกัน          
สื่อมวลชน      :         การจะเผยแพร่โครงการของในหลวง ที่ไปทั้งตำบล และอำเภอ ผบ. คิดว่าจะจูงใจให้ชาวบ้านปฏิบัติได้ไหม
ผบ.ทบ.          :           สิ่งที่เราทำเราไม่ได้ไปเริ่มใหม่ทั้งหมด  มีอยู่แล้ว  เพียงแต่บางทีเขาไม่เข้าใจว่าที่เขาทำ  ส่วนใหญ่รู้มีปราชญ์ชาวบ้าน  มีกระบวนการเรียนรู้เขาอยู่แล้ว  เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถที่จะไปชักนำคนอื่นๆ ทำตามเขาได้  ไม่มีอำนาจบังคับใครได้  บางคนอยากทำแต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีเงินทุน ไม่มีวิชาการ  เราไปเพิ่มให้ตรงนั้น  เราจะต้องทำแบบไดเร็กเซลล์  ถ้าเราเอาเขามาอบรมที่เราก็สิ้นเปลือง เสียเวลาเดินทางไปมา  ไปสร้างตัวอย่างไว้ในหมู่บ้านให้เห็นตัวอย่างเลี้ยงปลา  เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ปลูกพืช  เห็นว่าทำได้จริง  วันนี้มีทุกหมู่บ้าน  ต้องใช้ไดเร็กเซลล์  ผมอยากใช้คำว่าขายตรง  ขายความรู้  ขายประสบการณ์โดยใช้ชาวบ้านด้วยกัน  บางทีเราไปพูดเขาไม่เชื่อ  เขาหาว่าทหารไปพูด ทำเป็นหรือเปล่า   ก็จะไปสอนเขาเลยวันนี้ที่เขาทำตรงกับที่พระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงเริ่มอย่างนี้ไว้  พระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงทำมาตั้งแต่ต้น  ตั้งแต่ยังไม่มีใครทำ  เมื่อท่านเริ่มแล้วต้องมีคนอื่น  รัฐบาลทุกรัฐบาลก็ทำต่อมา   ท่านไม่ได้ไปขัดแย้งกับอะไรใครเลย  ท่านเริ่มในส่วนที่เขาไม่ได้เริ่ม  ตรงไหนที่เริ่มแล้วท่านก็ไม่ไป  ตรงไหนที่ดีอยู่แล้วท่านไม่ได้ไปยุ่ง  ตรงไหนที่ไม่ลำบาก  ไม่ได้แห้งแล้ง  ไม่ได้ยากจนท่านก็ไม่ไป  เป็นเรื่องของกระบวนการต่างๆ ของรัฐบาลทุกรัฐบาลเขาทำไป  ท่านไปตรงที่ยังไม่มีใครไป  เมื่อมีใครไปแล้วท่านก็ไม่ไป  ท่านไปตรงอื่นแทน  คือท่านส่งเสริมทุกอย่าง  เริ่มต้นให้แล้วก็เสริมในจุดที่ขาด  ผมอยากให้ทุกคนได้เข้าใจว่าพระองค์ท่านอยู่ในบทบาทอะไร  ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ  เพราะสิ่งใดก็ตามที่เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร  เป็นเรื่องอะไรก็ตามที่อยู่ในอำนาจ ๓ อำนาจ  บริหาร  นิติบัญญัติ  และตุลาการ  ท่านทรงพระราชทานให้ทุกครั้ง  เพราะฉะนั้นทั้งหมดวันนี้เสนอขึ้นไปในสิ่งที่เป็นงานเป็นระบบเป็นอะไรท่านพระราชทานให้ทุกครั้ง เพราะท่านถือว่าทุกคนคือคนไทยจำไว้อันหนึ่ง  ทุกคนคือคนไทยไม่ว่าจะพวกไหน สีไหน ท่านทรงรับสั่งอยู่เสมอ จะไม่เข้าใจ จะไม่รักอะไรต่างๆ ท่านไม่ได้บังคับใคร  แต่กฎหมายจำเป็นต้องกำหนดไว้ ท่านไม่ได้เป็นคนกำหนดกฎหมายนี้ขึ้นมาเอง เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติคือรัฐบาล ทุกรัฐบาลเป็นคนกำหนดกฎหมายพวกนี้  ที่ว่ากฎหมายพวกนี้ไปอะไร ไปรังแกประชาชนอะไรต่างๆ  ท่านไม่ได้เขียนเองกฎหมายพวกนี้ เป็นอำนาจ ๓ อำนาจเขียนเพื่อดูแลพระองค์ท่าน  เพราะพระองค์ท่านไม่สามารถไปโต้แย้งใครได้ ไม่สามารถจะไปลงโทษใครได้ ให้ร้ายใครได้  เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนต้องออกมาปกป้องพระองค์ท่าน  ถึงต้องมีกฎหมาย  เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนคิดว่ากฎหมายไม่ดี ไม่อย่างนั้นกฎหมายทุกกฎหมายก็ไม่ดีหมด  เพราะกฎหมายเขาบอกห้ามคนไปกระทำผิด เมื่อรู้ว่าผิดแล้วจะไปทำทำไม ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เป็นปัญหาเรื้อรังมาทั้งหมด
..............................................
          แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก


วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ.๗ ม.ค. ๕๗


 
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๑)
                   วันนี้ ๗ ม.ค.๕๗  เวลา ๒๒.๐๐ ๐๒.๐๐ น. กองทัพบกเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ จาก       จ.ชลบุรี และปราจีนบุรี เข้าสู่ กทม. (ปลายทางกรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์บางเขน)     เพื่อเตรียมสาธิตการปฏิบัติทางทหาร และสวนสนามยานยนต์ ในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อ       ธงชัยเฉลิมพล
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๒)
วันเด็กปีนี้ วันเสาร์ ๑๑ ม.ค.๕๖ เวลา ๐๘.๐๐ ๑๖.๐๐ น. กองทัพบกขอเชิญชวนน้องๆร่วมกิจกรรมมากมาย ณ กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ สนามเป้า กทม. (ข้างสถานีโทรทัศน์ช่อง ๕) กองทัพบกเติมความสุข ปลุกจิตสาธารณะ สร้างสาระในวันเด็ก
                                ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๓)
                   งานวันเด็กปีนี้ กองทัพบกจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด กองทัพบกเติมความสุข ปลุกจิตสาธารณะ สร้างสาระในวันเด็กโดย ผู้บัญชาการทหารบก กำชับทุกหน่วยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๔)
                   กองทัพบกเร่งพัฒนาห้องเรียนจำลอง ฝึกปฏิบัติการทางยุทธวิธี ด้วยระบบภาพและเสียงเสมือนจริง เพื่อฝึกทักษะการตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับทหาร
ข่าวประชาสัมพันธ์ / ข่าวตัววิ่ง(๕)
                   ขณะนี้หน่วยทหารของกองทัพบก กำลังซักซ้อมสวนสนามและเตรียมยุทโธปกรณ์ เพื่อร่วมในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ซึ่งตรงกับวันที่  ๑๘ มกราคมของทุกปี
                                           ---------------------------                
                                                                                    ๗ มกราคม ๒๕๕๗

ข่าวประชาสัมพันธ์ สลก.ทบ. วันที่  ๗ มกราคม  ๒๕๕๗  จาก พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ.  รับข่าวเมื่อวันที่  ๖ ม.ค. ๕๗