วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อสื่อมวลชน
ประจำวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖  เวลา  ๑๔๒๐  ณ  หอประชุมกิตติขจร

สื่อมวลชน      :         วันนี้ท่านได้สั่งการอะไรในการประชุม นขต.ทบ.
ผบ.ทบ.          :         วันนี้เป็นการประชุมประจำเดือนตามปกติ แต่เป็นวาระพิเศษมีผู้บังคับหน่วยระดับกรมและกองพันมา  ปีหนึ่งจะมีประมาณ ๓ ๔ ครั้งที่เอาผู้บังคับกองพันมา  เป็นเรื่องของการสรุปการปฏิบัติงานประจำปี  กองทัพบกทำงานทั้ง ๖ สายงาน  ตั้งแต่กำลังพล ข่าว ยุทธการ ส่งกำลัง กิจการพลเรือน ปลัดบัญชีทหารบก งบประมาณ ต้องสั่งงานทั้ง ๖ สายงาน สรุปทั้ง ๖ สายงาน แล้วสรุปงานว่าเราจะขับเคลื่อน ๗ ส่วนกองทัพบกไปได้อย่างไร ทั้งส่วนกำลังรบ สนับสนุนการช่วยรบ การช่วยรบ  วันนี้เป็นการสรุป แล้ว ผบ.ได้สั่งงานในทุกๆ เรื่อง  ขอบใจเขา ขอบคุณเขา  วันนี้เป็นวันแห่งเกียรติยศ มีมอบรางวัลทั้งหมด ๙ ประเภท ๙เรื่อง ทั้งกีฬา ทั้งแข่งขันยิงปืน การแข่งขันทางยุทธวิธี การฝึกศึกษา จัดรางวัลให้เขา  ปีหนึ่งมีการทดสอบ ๒ ครั้ง  เมื่อเช้ามีพิธีการมอบรางวัลและการประดับเครื่องหมายการสำเร็จการผ่านการทดสอบหลักสูตรหน่วยทหารทรหด รุ่นที่ ๒  เราทำพิธีไปให้สมเกียรติ ให้เขาภูมิใจ ว่าเขาได้มาทำงานต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง ได้มารับรางวัล รับใบประกาศจากมือผู้บังคับบัญชาระดับสูง เป็นสิ่งที่เขาจะได้ภาคภูมิใจ เพื่อจะรองรับสถานการณ์ในอนาคตในเรื่องของภัยคุกคาม ในเรื่องของการป้องกันประเทศ  เราต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาให้ได้ เพื่อจะให้กองทัพแข็งแรง  สิ่งที่ผมฝากไว้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้หมด เพียงแต่ว่าจะพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน  จะเห็นว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปทุกวันๆ  มีความสลับซับซ้อนเป็นพลวัต  วันนี้เราเป็นศูนย์รวมกำลังแห่งฝ่ายความมั่นคง ที่จะต้องยืนหยัดให้ได้ในท่ามกลางมรสุมหลายๆ ด้าน งานเราก็ยังเดินอยู่  ผมบอกแล้วว่าวันนี้สถานการณ์เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนไทยทุกคน เพราะฉะนั้นพยายามอย่าเอาทหารไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง  ทหารเป็นทหารของชาติ ของประชาชนอยู่แล้ว เป็นทหารที่จะต้องดูแลสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนโดยรวมอยู่แล้ว  วันนี้มีความขัดแย้ง มีความขัดแย้งกันอยู่  ผมคงไม่อาจไปก้าวละเมิดล่วงในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐได้  อีกส่วนหนึ่งผมไม่สามารถจะไปทอดทิ้งประชาชนได้  ขณะเดียวกันก็มีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากซึ่งอยู่ตรงกลางอยู่ หรืออยู่ตรงไหนก็ไม่ทราบ  พร้อมจะขับเคลื่อนออกมาอีกเหมือนกัน  เพราะฉะนั้นเราต้องทำอย่างไร เหมือนกับผมกำลังนำพากองทัพเดินไปบนเส้นทางสักเส้นทางหนึ่งซึ่งเส้นทางข้างหน้าคือประเทศชาติ ความสงบสุข   คนยังต้องอยู่ต้องกิน เศรษฐกิจต้องเดิน ประเทศชาติต้องได้รับการยอมรับ อันนี้คือถนนเส้นทางตรงที่กำลังเดินไปข้างหน้าอยู่ด้วยกัน  ผมมี กองทัพอยู่ ๒ แสนกว่าคน  ผมต้องนำพาคนเหล่านี้เดินถนนเส้นนี้ไปให้ได้ แล้วนำพาชาติ ประชาชนไปให้ได้  ไปเจอทางแยก ตอนนี้ผมกำลังอยู่ตรงทางแยก  ทางตรงนั้นอาจจะไกล อาจจะไปได้ยาก ไปไม่ได้  ผมจะไปซ้ายก็ไปไม่ได้อีก  ไปขวาก็ไปไม่ได้อีก  เพราะฉะนั้นผมจะทำอย่างไรให้ซ้ายกับขวา เหมือนกับเอาไฟแดงให้หยุดกันทั้งคู่ก่อน  เปิดไฟแดงไว้ทั้งสองทาง แล้วเราไปตรงนี้ก่อน ให้สถานการณ์สงบลง ให้ผ่านช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วนก่อน  เพราะฉะนั้นขอร้องว่า ขออย่าเอาทหารไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง  ถ้าบอกว่าถ้าผมไม่สนับสนุนด้านนี้ ผมไม่รักทางด้านนี้ คงไม่ใช่แบบนั้น  อย่างที่ผมบอกแล้วไม่ได้มีซ้ายกับมีขวาแต่มีข้างหน้ากับข้างหลังอีก  เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามที่จะนำพาทั้งหมดไปให้ได้ด้วยความปลอดภัย นั่นคือหลักการของผม  ขอร้องพวกเราทุกคนว่าจะช่วยกันทำอย่างไร  วันนี้ผมไม่ได้นิ่งนอนใจเลย  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มีความไม่เข้าใจกันมา ผม พยายามทำทุกอย่าง แต่ต้องเข้าใจว่าผมพูดอะไรมากคงไม่ได้  ผมเป็นห่วงประเทศชาติ  วิธีการจะแก้ปัญหาเป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งคงต้องแก้กันให้ได้  วันนี้ถ้าต่างฝ่ายต่างพูดกันไม่ตรงกันอยู่แบบนี้จะไม่มีใครแก้ปัญหาได้  ผมจะทำอะไรออกไปก็คงไม่ได้ถ้าไม่เห็นชอบร่วมกัน  วันนี้ ผมใช้คำว่าทหารกำลังสร้างสภาวะแวดล้อมให้ประเทศชาติปลอดภัย เพื่อให้ไปสู่กระบวนการในการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี  ฟังแล้วดูดี เป็นยุทธศาสตร์ข้อ ๘ ด้วย  ภาคใต้เขาใช้วิธีนี้  คือสร้างสภาวะแวดล้อมให้ปลอดภัย ให้ทุกส่วนราชการเขาทำงานได้ ให้ทุกคนมีความพึงพอใจ   ซึ่งวันนี้ยังไปไม่ได้ถึงตรงนั้น  แต่ผมคิดว่าด้วยความเป็นคนไทย ด้วยความสนับสนุนของพวกเราทุกคน   ทั้งกลุ่ม คปท. กปท.  คนกลุ่มใหญ่มีความปรารถนาดีในการจะแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง แต่มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งชอบใช้ความรุนแรง ตรงนี้ อาจจะคิดว่าถ้าไม่ทำแรงก็ไม่จบ ไม่ทำแรงก็ไม่ชนะ ใช้วิธีการเหมือนปี ๕๓  วิธีการเคลื่อนที่เข้าหาเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างเหมือนหมด  ผมไม่รู้คนพวกนี้  ๕๓ ทำด้วยหรือเปล่า  ผมไม่ตำหนิใคร  แต่คนส่วนนี้ทำให้เกิดความรุนแรง ไม่ควรทำ  ส่วนที่สองผมมาดูคลิป เจ้าหน้าที่อาจจะมีอารมณ์ อาจจะไม่ชอบ อาจจะอึดอัด  นั่นแหละคือสิ่งที่กองทัพบกพยายามมาโดยตลอด เพราะเวลาเอาทหารไปทำงานต้องเรียนรู้ ต้องสอนเขา  ต้องอดทนเขาจะขว้างหิน เขาจะทุ่มอะไรใส่เราต้องอดทน ยอมเจ็บ ยอมปวด  ไม่อย่างนั้นความขัดแย้งจะขยายไปเรื่อยๆ  แต่เจ้าหน้าที่บางคนทนไม่ไหว จึงมีภาพความรุนแรงเกิดขึ้น  ทั้งเจ้าหน้าที่ กลุ่มผู้ชุมนุม  ผมอยากจะขอร้องคนส่วนนี้ซึ่งเป็นส่วนน้อยในส่วนใหญ่  อาจจะมีเจ้าหน้าที่บางนายอารมณ์รุนแรงไปตอบโต้ ไปทุบรถเขา ท่านทราบดีอยู่แล้ว  อีกพวกหนึ่งก็เอาล่ะพวกนี้ทำเราก็ต้องไปสู้เขา เลยกลายเป็นการสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งกับประชาชนส่วนหนึ่งในส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้ส่วนใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเสียหาย  เพราะฉะนั้นท่านจะทำอะไรก็ตามในการเคลื่อนไหวทางการเมืองผมว่าในวิธีการที่สงบน่าจะได้ ทุกประเทศเขาก็พยายามทำกันอยู่  เพราะว่าท้ายสุดคนบาดเจ็บสูญเสียไม่ใช่คนเหล่านี้  คนที่อยู่ข้างหลังจะเจ็บจะตายทีหลังโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่รู้ใครยิงเข้ามา ไม่รู้ใครขว้างอะไรใส่  ผมบอกลูกน้องจะไปทำอย่างนั้นกับเขาไม่ได้ เขาจะยิงอะไรมาก็ยิงกับเขาไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนไทย เขาเป็นประชาชนคนไทยด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ  จะโกรธจะเกลียดอย่างไร แต่เราเป็นเจ้าหน้าที่เพราะฉะนั้นต้องมีความอดทนมากกว่าคนปกติ  คุยกันได้ไหมว่าอย่าเข้าไป อยู่ข้างนอกก็พอ ผมไม่ได้ชี้ช่อง แต่ผมพูดถึงนี่คือกระบวนการการต่อสู้ด้วยประชาธิปไตย แต่ต้องด้วยความสงบ ไม่ละเมิดกฎหมาย ไม่ทำให้เจ้าหน้าที่เขาเสียหาย  ถ้าผมไม่พูดตำหนิเจ้าหน้าที่เลยกลายเป็นว่าผมไปเข้าข้างนี้อีก  ถ้าผมตำหนิเจ้าหน้าที่ กลายเป็นว่า ผมไม่เป็นธรรม  เพราะฉะนั้นผมจะยืนหยัดอยู่ในความเป็นธรรม  ทหารจะทำหน้าที่ดำรงความเป็นธรรมให้ได้  ผมให้บันทึกทั้งหมดว่ามีภาพความรุนแรงที่ไหน อย่างไร ใครทำอะไร แล้วพอจบเหตุการณ์ต้องสอบสวนกันให้ได้  ที่ผ่านมาปี ๕๓ ไม่มีใครสอบให้เรา  วันนี้คดีทุกคดีทหารยังไม่มีใครตั้งเรื่องให้เราเลยผมอยากจะบอกให้  เพราะฉะนั้นเดี๋ยวกลายเป็นว่าผมไม่ได้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกน้องผมเลย 
สื่อมวลชน      :         ผบ. มองว่ารูปแบบเหมือนปี ๕๓ แล้วผลลัพธ์จะออกเหมือนปี ๕๓ ไหม
ผบ.ทบ.          :         ถ้าไม่ใช้ความรุนแรงอย่างที่ว่าเมื่อสักครู่  ถ้าอีกฝ่ายไม่ไปยั่วยุ อีกฝ่ายไม่ไปบุกรุก เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้  ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนก็ประท้วงอะไรก็ว่ากันไป  อย่าไปคิดว่าการแก้ปัญหาจะทำได้เร็วมากนัก บางทีการแก้ปัญหาโดยเร็วเกินไปจะทำให้เกิดปัญหา  การปฏิบัติงานท่านก็รู้อยู่แล้วว่าถ้ามีคนกลุ่มหนึ่งไปใช้ความรุนแรงไปทำให้ประชาชนเขาเกลียดชังจะทำให้รู้สึกว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำงาน ถูกไหม  เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีคนเหล่านี้ออกมาใช้ความรุนแรง มาขว้าง มาทุ่ม เตะเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่เขาก็ทำอะไรไม่ได้  ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องไม่ไปตีประชาชน  พอเสร็จแล้วท้ายสุดก็ต้องมี  ความรุนแรงเกิดขึ้น ลุกลามไปสู่การใช้อาวุธ  เมื่อวานนี้ยังไม่รู้ใครใช้เลย  สิ่งเหล่านี้ต้องพิสูจน์มาให้ได้โดยเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเอาออกมา  ว่าใครที่เอาปืนพกไปยิงอยู่บนตึก  แม้กระทั่งที่รามคำแหงก็ต้องมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าอะไรอย่างไร ใครทำ มาจากไหน ใครสอนใครสั่งมา ใครให้ทำ  ต้องสอบให้ชัดเจนจะได้ไม่เกิดขึ้นอีก  สิ่งที่ผมจะพูดคือ  ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพ  จะได้ไม่ขยายความขัดแย้งออกไป  แต่ถ้ายังไม่เคลียร์ ก็โทษกันไปโทษกันมา  เลยสรุปว่าที่จะดีกันอยู่เลยไม่ดีกันอีก เกิดเกลียดกันมากขึ้นไปกว่าเดิม   
สื่อมวลชน      :         ถามในภาพรวมนิดหนึ่ง ที่ ผบ.บอกว่าต้องเปิดไฟแดงให้ทั้งสองฝ่ายแล้ว ผบ.จะเดินไปคือแนวทางอะไร           
ผบ.ทบ.          :        ผมเดินทำงานของผม  ไฟแดงคือผมไม่ไปขยายความขัดแย้ง  ผมไม่ไปใช้ความรุนแรง  ผมเสนอแนวทางสันติวิธี  ผมไม่ไปสนับสนุนในเรื่องของการใช้กำลังเข้าไปปราบปราม ถ้าประชาชนเขาไม่ได้ใช้ความรุนแรง ไม่มีการใช้อาวุธ  ผมพยายามหยุดตรงนั้น ไม่ให้เกิด                  
สื่อมวลชน      :         แนวทางการปฏิรูปกับการเลือกตั้งจะเดินไปคู่ได้ด้วยกันไหม
ผบ.ทบ.          :         ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายจะยินยอมกันหรือเปล่า  ผมตอบอย่างนี้ดีกว่า  ถ้าทำได้ ข้อตกลงพอใจกันทั้งสองฝ่าย ก็เลือกตั้งได้  ถ้ายังไม่พอใจก็เลือกตั้งกันลำบาก   
สื่อมวลชน      :         ผบ.เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูปไหม
ผบ.ทบ.          :         ประเทศไทยต้องปฏิรูปหมด ทุกเรื่องท่านรู้ดีอยู่แล้วปฏิรูปทุกด้าน การเมือง กระบวนการทั้งหมดต้องปรับไปสู่ความทันสมัยแบบสากล เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ผมว่าไปกันลำบาก  ประชาธิปไตยคือ ใครรักใครชอบใครก็ไปอย่างนั้นแล้วสนับสนุนได้ทุกวิถีทาง  เอาประเทศชาติเป็นหลัก 
สื่อมวลชน      :         ผบ.พูดให้ชัดๆ ได้ไหมครับว่าสถานการณ์ในขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ความขัดแย้ง แนวทางการแก้ไขของท่านจะเป็นอย่างไร
ผบ.ทบ.          :         ตอนนี้ให้ทุกคนไปพักผ่อน สวดมนต์ปีใหม่ ให้ใจเย็นๆ ลงสักหน่อยหนึ่ง แล้วไปกราบคุณพ่อคุณแม่  ตอนนี้อย่าเพิ่งจับกุมดำเนินคดีกันเลยก็แล้วกัน ให้กลับไปกราบพ่อกราบแม่ก่อน  ผมบอกแล้วว่ากฎหมายมันอันตราย  ใช้มากก็อันตราย ใช้น้อยก็อันตราย เสร็จแล้วคนก็ไม่นับถือ คนก็ไม่เคารพกฎหมายกันแล้วยิ่งไปกันใหญ่ผมว่า 
สื่อมวลชน      :         ผบ. กรณีที่ตอนนี้ตำรวจเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้ารัฐบาลร้องขอให้ทหารออกมาดูแลสถานการณ์แทน คือแทนตำรวจทั้งหมดเราพร้อมไหม
ผบ.ทบ.          :         สถานการณ์เขาเรียกเป็นการพัฒนาสถานการณ์  การพัฒนาสถานการณ์คือการพัฒนาไปสู่ ตั้งแต่ ศอ.รส. ไป ศอฉ. กฎหมายก็ต้องเพิ่มใช่ไหม เป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ทั้งหมดไม่ใช่ทหาร รัฐบาลรับผิดชอบเหมือนเดิม  จะมีใครเจ็บใครตายรัฐบาลต้องรับผิดชอบ  รัฐบาลที่แล้วรับผิดชอบอยู่ไม่ใช่หรือ  เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ถ้าเกิดขึ้นมาอีก รัฐบาลนี้ต้องเป็นคนรับผิดชอบ สื่อมวลชน     :         เพราะฉะนั้นปิดประตูเรื่องของรัฐประหาร
ผบ.ทบ.          :         ไม่ปิด ไม่เปิด  ไม่มีปิดมีเปิดอยู่แล้ว  สถานการณ์ทุกสถานการณ์อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น  ถ้าเกิดขึ้นมาสถานการณ์เป็นตัวกำหนด  แต่ท่านน่าจะให้กำลังใจกองทัพว่าเราพยายามยืนในบทบาทที่เหมาะสมอยู่  พยายามที่จะไม่ไปใช้อำนาจนอกระบบ ไม่ใช้กำลัง  พยายามจะให้ใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาด้วยการพูดคุย ด้วยการพบปะ ด้วยการอะไรต่างๆ จะเกิดได้หรือไม่ได้ เวลาเป็นตัวแก้ไข        
สื่อมวลชน      :         ปัญหาจะยุติอย่างไร
ผบ.ทบ.          :         ต้องไปถามทุกคน ถามคนไทยทุกคนจะยุติอย่างไร ถามทุกพวกทุกฝ่าย ถามพวกที่ไม่ได้ออกมาด้วยว่าจะหยุดอย่างไร  ไม่ใช่วันนี้มีพวกนี้อยู่  อีกพวกอยู่อย่างนี้ มีทหารอยู่อย่างนี้      มีตำรวจอยู่อย่างนี้ อีกพวกอยู่บ้านบอกเตรียมออกมาอีกแล้ว             แล้วจะทำอย่างไร ไปถามพวกนั้นด้วย
สื่อมวลชน      :         ได้คุยกับท่าน ผบ.ตร.ไหม เมื่อวานเห็นมีภาพทหารกับผู้ชุมนุมไปตรวจรถตำรวจ
ผบ.ทบ.          :        ไม่ใช่ คุณไม่เห็นมือเขาหรือ  เขาไปกันอยู่อย่างนี้ แล้วกลายเป็นว่าทหารไปร่วมเขาตรวจค้นไม่ใช่  เขาไปกันประชาชนไม่ให้ขึ้นบนรถตำรวจ  พอภาพออกมาอธิบายไปคนละอย่างสองอย่าง ผิดไปหมด  เมื่อวานผมยังสั่งการไปเลย มีประชาชนเข้าไปเดินลุยเข้าไปหาทหาร เสร็จแล้วเจอทหาร สวัสดีครับพี่ครับ จับมือกัน เสร็จแล้วหันหน้าไปตีตำรวจ  ผมเลยบอกไม่ถูก ไม่ได้ ต้องบอกให้เขาหยุด อย่าไป  ลูกน้องเขาก็ไม่ค่อยกล้าพูด  เดี๋ยวจะกลายเป็นอะไร ความไม่เข้าใจกันระหว่างทหารกับตำรวจ  ยิ่งทหารกับตำรวจทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้ว พี่น้องกันทั้งหมด  แต่ตำรวจก็ต้องมีคนมีอารมณ์ แต่จะทำอย่างนั้นไม่ได้  ที่ไปทุบรถเขา อะไรเขา  ประชาชน  ถึงอย่างไรก็ทำไม่ได้เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ เราต้องปลูกฝังลูกน้องเราให้ได้แบบนั้น  ปี ๕๓ เราถูกขว้างก้อนอิฐก้อนเท่านี้ ผมไม่ได้บอกให้ลูกน้องขว้างกลับไปเลย 
สื่อมวลชน      :         ได้มีการพูดคุยกับท่าน ผบ.สูงสุดไหมเรื่องการที่นายกจะให้สร้างสภาปฏิรูปและเชิญผู้นำเหล่าทัพ         
ผบ.ทบ.          :         เขาเสนอมาเป็นแพ็คเกจเฉยๆ ว่าจะเป็นอย่างไร เอาราชตฤณมัยสภาสมัยเมื่อปี ๑๕ , ๑๖ มาเป็นหลักการก่อน  แล้วท่านเขียนให้เขาดู พอท่านเขียนแล้วท่านกลายเป็น ผบ.สูงสุด เป็นหัวหน้าไม่ใช่  เป็น ๑ ใน ๑๑ คน  คนที่ว่าจะใช่หรือเปล่ายังไม่รู้เลย  อีกพวกบอกทำไมมีแค่ ๑๑ ทำไมไม่มีมากกว่านั้น  ภาคอื่นไปไหนอยู่ไหน  ยังไม่เกิดอะไรสักอันแค่นี้ก็ตีกันจะตายอยู่แล้ว             
สื่อมวลชน      :         ปัญหาภาคใต้
ผบ.ทบ.          :         วันนี้ทุกอย่างเดินไปได้ด้วยดี  วันนี้การพูดคุยมีหลายกลุ่มเข้ามาร่วมด้วย       มีหลายกลุ่มที่ทำให้การเปิดเผย ทำในทางลับ  โครงการพาคนกลับบ้านก็ทำอยู่  วันนี้ทหารลงไป     วางกำลังอยู่บนเทือกเขาบูโดได้เรียบร้อยแล้ว ตามแนวทางใหม่ที่ผมได้กำหนดไป  แล้วการจัดกำลังทหารไปอยู่ใน ๑๓๖ หมู่บ้าน ในพื้นที่ ๑ , ๒ , ๓  การปรับกำลังอาสาสมัคร พลเรือน ตำรวจ ทหาร ไปรับมอบเป็นจ๊อบๆ ให้ชัดเจนขึ้น โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า  ทุกอย่างคืบหน้าไป ทหารหรือฝ่ายความมั่นคงจะมีหน้าที่รักษาสภาวะแวดล้อมให้ปลอดภัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำงาน  การแก้ปัญหาทุกอย่าง ความขัดแย้งแบบนี้รบกันไม่ชนะ รบกันอย่างเดียวไม่มีวันชนะ       
สื่อมวลชน      :         เราแก้ปัญหามา ๑๐ ปีแล้ว ผบ.พอใจในเรื่องการดำเนินการ             
ผบ.ทบ.          :         ถ้าถามว่าพอใจไหม ก็ไม่พอใจหรอก เพราะมีคนเจ็บคนตาย แต่ถามว่าก้าวหน้าไหม ก้าวหน้า  เราต้องใจเย็นๆ นิดหนึ่ง  เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศเขา  ๕๐ ปี ๑๐๐ ปีเขายังแก้ไม่ได้เลย อย่าไปคิดอย่างนั้น  เราต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาที่สะสมมายาวนาน

..............................................
          แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก