วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อสื่อมวลชน
ประจำวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖  เวลา  ๑๒๐๐  ณ  ห้อง ๒๒๑ บก.ทบ.

สื่อมวลชน      :         จากเหรียญรางวัลที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ดูแล้วพอใจไหมมีการพัฒนาอย่างไรต่อไป
ผบ.ทบ.          :         ต้องใช้คำว่าพอใจเพราะมากกว่าครั้งที่ผ่านมา อย่างที่ผมเรียนไปแล้วว่า ผมพูดก่อนวันที่เขาไปว่าให้กำลังใจเขา แล้วให้เขามุ่งหวังว่า คืออย่าไปหวังเหรียญอื่นไปแล้วต้องหวังเหรียญทองเท่านั้น แต่ต้องตั้งความหวังทุกคนไว้ขนาดนั้น และวันนี้ก็เป็นวันแห่งเกียรติยศของพวกเราทุกคน ผมถือว่ากองทัพบกได้รับชื่อเสียงเกียรติยศไปด้วย และข้อสำคัญคือคนไทยทุกคนมีความสุขจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในครั้งนี้ที่ประเทศเมียนมาร์  ฝากเขาไว้ว่าเขาต้องดูแลตัวเขาเองต่อไปในอนาคตเพื่อการแข่งขันในครั้งต่อๆ ไปซึ่งมีอีกมากมาย การแข่งขันกีฬาเอเซียนเกมส์ที่จะมาในอนาคต เป็นกีฬาอีกระดับหนึ่ง  เขาต้องพัฒนาตัวเอง  สิ่งสำคัญคือว่าควบคุมดูแลตัวเอง สร้างวินัยให้ตัวเองให้ได้  การเป็นนักกีฬาที่ดีนั้นสำคัญคือร่างกายและจิตใจ  ถ้าร่างกายเข็งแรง เข้มแข็ง จิตใจดี สามารถไปสู่ความสำเร็จได้ แต่ถ้าทุกคนไม่ดูแลตัวเองปล่อยปละละเลย  ผมว่าร่างกายไม่สมบูรณ์  การได้เหรียญทองก็ไม่มีความหวัง  ความสุขของคนไทยก็ลดลง  เพราะนั้นเราก็คาดหวังว่าอยากให้คนไทยมีความสุขมากขึ้นในการแข่งขันของชาติในครั้งต่อไป 
สื่อมวลชน      :         เราจะมีการพัฒนาประเภทกีฬาอื่นๆ ที่เป็นทหารบกไปแข่งบ้างไหม
ผบ.ทบ.          :           อันนี้เราเตรียมนักกีฬาไว้ให้  มีสองอย่าง เราจะคัดเลือกนักกีฬาไว้ให้  เพื่อให้สมาคมกีฬาต่างๆ  เขาเอานักกีฬาเหล่านี้ไปคัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง  อันที่สองคือดูแลนักกีฬาที่ไปแข่งขันในนามของทีมชาติ  มาบรรจุเป็นทหาร  เราจะได้มีงบสวัสดิการ  มีเงินเดือน  มาดูแลเพื่อเป็นค่าครองชีพเขา  เราคงไม่ให้เป็นเงินก้อน  แต่เราบรรจุเขาเป็นนักกีฬากองทัพบก  ในกีฬากองทัพบกเขาจะมีหน้าที่ช่วยฝึกสอน  ช่วยแนะนำนักกีฬาใหม่ๆ ของเรา  แต่เมื่อถึงเวลาไปแข่งขันเขาก็ไปแข่งขันในนามของประเทศชาติ  เงินรางวัลต่างๆ  ซึ่งทางสมาคมกีฬาให้ก็เป็นเรื่องของเขา  ส่วนกองทัพบกเป็นขวัญกำลังใจเขา  แต่เราดูแลเขาอยู่แล้วคือ การบรรจุเข้าเป็นทหารต้องมีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยง มีสวัสดิการ เหมือนกับทหารคนอื่นๆ เหมือนกัน  เขาทำอย่างเดียวคือเป็นนักกีฬา
สื่อมวลชน      :         เรียนถามเรื่องบทบาททหารในการเทิดทูนสถาบัน ในขณะนี้ที่ ผบ.ทำงานอยู่เรามีการเพิ่มจุดใดให้ประชาชนได้เรียนรู้ รับรู้สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มดำเนินการโครงการต่างๆ
ผบ.ทบ.          :           วันนี้เราทำทุกอย่าง  การสร้างการรับรู้อาจจะต้องเป็นแนวใหม่คือให้เขาได้เห็นความสำเร็จวันนี้ย้อนมาจากตรงไหน  วันนี้ถ้าเรามองแต่ด้านความสำเร็จอย่างเดียวโดยที่ไม่ดูเลยว่าเป็นมาเป็นไปอย่างไร  พระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มไว้อย่างไรตั้งแต่แรก  พื้นที่เหล่านี้แต่ก่อนเป็นอย่างไร แห้งแล้ง ยากจนอย่างไร แล้ววันนี้พัฒนามาสู่ความเจริญยั่งยืนแบบนี้ด้วยอะไร อันนี้เราต้องย้อนกลับ ต้องให้เขาเข้าใจตรงนี้  วันนี้กองทัพบกทำในทุกมิติ การสร้างความเข้าใจ  อยู่ในยุทธศาสตร์ของกองทัพบกอยู่แล้วซึ่งเข้ากับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ในการสร้างความรักสามัคคี และพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน  ทั้งการสร้างความเข้าใจ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ และข้อสำคัญคือสร้างความรักความสามัคคี  วันนี้ให้นโยบายไปว่าปีนี้เราจะเร่งทำในเรื่องของศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงประจำพื้นที่ ประจำตำบล หมู่บ้าน โดยเราไม่ต้องไปสร้างเอง เราไปหาประชาชนหมู่บ้าน คือใช้วิธีการเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำแล้วได้ผลเราจะไปดูแลไปสนับสนุน ไปสร้างกระบวนการของเขาให้ขยายไปยังหมู่บ้านต่างๆ ทุกครัวเรือนให้ได้ เราเร่งรัดเรื่องนี้อยู่  ในส่วนอื่นๆ นั้นผมคิดว่าต้องไปสอดคล้องกับกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ที่มีหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว ประสานเพื่อให้คำแนะนำ ให้แนวทางแสวงหาแนวร่วมในการบูรณาการทุกภาคส่วนมาช่วยกันตรงนี้  ในส่วนของเรื่องการจงรักภักดี  ทุกคนจงรักภักดีกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับพระราชวงศ์อยู่แล้ว  แต่อาจมีคนที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง  ต้องไปดูว่าเขาทำไปเพราะอะไร  บางคนทำไปด้วยเหตุผลส่วนตัว ด้วยการสร้างความขัดแย้ง เกี่ยวพันไปหมด เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดี  ขณะนี้เราทำไปทุกมิติ อันแรกคือสร้างความเข้าใจ  อันที่สองคือในเรื่องของการละเมิดอะไรต่างๆ ทั้งทางเว็บไซต์  ในส่วนของการพูด  การสร้างวิทยากรเพื่อไปพูดในชุมชนต่างๆ  มีอยู่ส่วนน้อยเท่านั้น  คนเหล่านี้ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด ทำให้กฎหมายเสียหาย  เราคือคนไทยด้วยกัน   เรื่องอะไรก็ตาม  ผมคิดว่าเราควรจะมีการพูดจา  มีการทำความเข้าใจ  มีการหาข้อขัดแย้งให้เจอกัน  หาเหตุผลมาเพราะอะไรถึงทำ  วันนี้เราใช้วิธีการสร้างความเข้าใจ  ใครละเมิดสถาบันเราส่งคนไปพบไปดูแล  เราไม่ใช่ทหารไปคนเดียว  มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย ไปพบปะเขา ถามเขา ส่วนใหญ่เขาบอกว่าไม่ได้เจตนาไม่ตั้งใจ นั่นคือสิ่งที่เราเจอ  อีกส่วนหนึ่งก็มีความเข้าใจผิดว่าสถาบันลงมาเกี่ยวข้อง  ซึ่งผมให้ชี้แจงไปว่าไม่ใช่  ไม่จริง  ท่านไม่เคย  ท่านเป็นของคนไทยทุกคน  คนไทยไม่ว่าจะสีไหนพวกไหนล้วนเป็นคนไทย แต่อาจจะไม่เข้าใจอยู่บ้าง ต้องใช้เวลา  ใช้ความอดทนในการสร้างความเข้าใจไป  สิ่งหนึ่งที่เราต้องระมัดระวังคือการใช้กฎหมายที่มากเกินไป  บางครั้งอาจเกิดแนวร่วมมุมกลับ  เราพยายามจะอดทนและใช้ความเข้าใจ  ทุกคนต้องอดทน  ทุกคนรู้ว่าใครทำผิดทำถูกตรงไหน รู้หมด  ถ้าทุกคนยังเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่  ไปไม่ได้แน่นอน  คนไทยต้องกลับมาพูดคุยกัน          
สื่อมวลชน      :         การจะเผยแพร่โครงการของในหลวง ที่ไปทั้งตำบล และอำเภอ ผบ. คิดว่าจะจูงใจให้ชาวบ้านปฏิบัติได้ไหม
ผบ.ทบ.          :           สิ่งที่เราทำเราไม่ได้ไปเริ่มใหม่ทั้งหมด  มีอยู่แล้ว  เพียงแต่บางทีเขาไม่เข้าใจว่าที่เขาทำ  ส่วนใหญ่รู้มีปราชญ์ชาวบ้าน  มีกระบวนการเรียนรู้เขาอยู่แล้ว  เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถที่จะไปชักนำคนอื่นๆ ทำตามเขาได้  ไม่มีอำนาจบังคับใครได้  บางคนอยากทำแต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีเงินทุน ไม่มีวิชาการ  เราไปเพิ่มให้ตรงนั้น  เราจะต้องทำแบบไดเร็กเซลล์  ถ้าเราเอาเขามาอบรมที่เราก็สิ้นเปลือง เสียเวลาเดินทางไปมา  ไปสร้างตัวอย่างไว้ในหมู่บ้านให้เห็นตัวอย่างเลี้ยงปลา  เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ปลูกพืช  เห็นว่าทำได้จริง  วันนี้มีทุกหมู่บ้าน  ต้องใช้ไดเร็กเซลล์  ผมอยากใช้คำว่าขายตรง  ขายความรู้  ขายประสบการณ์โดยใช้ชาวบ้านด้วยกัน  บางทีเราไปพูดเขาไม่เชื่อ  เขาหาว่าทหารไปพูด ทำเป็นหรือเปล่า   ก็จะไปสอนเขาเลยวันนี้ที่เขาทำตรงกับที่พระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงเริ่มอย่างนี้ไว้  พระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงทำมาตั้งแต่ต้น  ตั้งแต่ยังไม่มีใครทำ  เมื่อท่านเริ่มแล้วต้องมีคนอื่น  รัฐบาลทุกรัฐบาลก็ทำต่อมา   ท่านไม่ได้ไปขัดแย้งกับอะไรใครเลย  ท่านเริ่มในส่วนที่เขาไม่ได้เริ่ม  ตรงไหนที่เริ่มแล้วท่านก็ไม่ไป  ตรงไหนที่ดีอยู่แล้วท่านไม่ได้ไปยุ่ง  ตรงไหนที่ไม่ลำบาก  ไม่ได้แห้งแล้ง  ไม่ได้ยากจนท่านก็ไม่ไป  เป็นเรื่องของกระบวนการต่างๆ ของรัฐบาลทุกรัฐบาลเขาทำไป  ท่านไปตรงที่ยังไม่มีใครไป  เมื่อมีใครไปแล้วท่านก็ไม่ไป  ท่านไปตรงอื่นแทน  คือท่านส่งเสริมทุกอย่าง  เริ่มต้นให้แล้วก็เสริมในจุดที่ขาด  ผมอยากให้ทุกคนได้เข้าใจว่าพระองค์ท่านอยู่ในบทบาทอะไร  ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ  เพราะสิ่งใดก็ตามที่เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร  เป็นเรื่องอะไรก็ตามที่อยู่ในอำนาจ ๓ อำนาจ  บริหาร  นิติบัญญัติ  และตุลาการ  ท่านทรงพระราชทานให้ทุกครั้ง  เพราะฉะนั้นทั้งหมดวันนี้เสนอขึ้นไปในสิ่งที่เป็นงานเป็นระบบเป็นอะไรท่านพระราชทานให้ทุกครั้ง เพราะท่านถือว่าทุกคนคือคนไทยจำไว้อันหนึ่ง  ทุกคนคือคนไทยไม่ว่าจะพวกไหน สีไหน ท่านทรงรับสั่งอยู่เสมอ จะไม่เข้าใจ จะไม่รักอะไรต่างๆ ท่านไม่ได้บังคับใคร  แต่กฎหมายจำเป็นต้องกำหนดไว้ ท่านไม่ได้เป็นคนกำหนดกฎหมายนี้ขึ้นมาเอง เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติคือรัฐบาล ทุกรัฐบาลเป็นคนกำหนดกฎหมายพวกนี้  ที่ว่ากฎหมายพวกนี้ไปอะไร ไปรังแกประชาชนอะไรต่างๆ  ท่านไม่ได้เขียนเองกฎหมายพวกนี้ เป็นอำนาจ ๓ อำนาจเขียนเพื่อดูแลพระองค์ท่าน  เพราะพระองค์ท่านไม่สามารถไปโต้แย้งใครได้ ไม่สามารถจะไปลงโทษใครได้ ให้ร้ายใครได้  เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนต้องออกมาปกป้องพระองค์ท่าน  ถึงต้องมีกฎหมาย  เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนคิดว่ากฎหมายไม่ดี ไม่อย่างนั้นกฎหมายทุกกฎหมายก็ไม่ดีหมด  เพราะกฎหมายเขาบอกห้ามคนไปกระทำผิด เมื่อรู้ว่าผิดแล้วจะไปทำทำไม ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เป็นปัญหาเรื้อรังมาทั้งหมด
..............................................
          แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก