วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สัมภาษณ์พิเศษ ผบ.ทบ.

สัมภาษณ์พิเศษ  ผบ.ทบ.
ในรายการพิเศษ  รวมพลังน้ำใจไทย  มอบแด่ทหารชายแดนใต้
๓๑ ตุลาคม  ๕๖  เวลา  ๒๒๐๐ น.  ออกอากาศทาง ททบ.๕

พิธีกร  :         การแก้ปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นับว่าเป็นงานท้าทายและเสียสละอย่างยิ่ง  กองทัพบก  ถือเป็นกลไกหนึ่งในการปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้งสามจังหวัดในพื้นที่ชายแดนใต้รวมไปถึง ๔อำเภอจังหวัดสงขลา   ด้วยการยึดหลักยุทธศาสตร์พระราชทาน  เข้าใจ  เข้าถึง  พัฒนาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ที่ผ่านมากว่าสิบปีกองทัพบกทุ่มเทสรรพกำลังในการปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งและหลายต่อหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ทหารสามารถยับยั้งเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่   และหลายต่อหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ทหารต้องพลีชีพจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและกล้าหาญยิ่ง  กองทัพบกไม่เคยนิ่งดูดายต่อทุกๆชีวิตที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่รวมถึงทุกชีวิตที่สูญเสียไป  และนี่จึงเป็นที่มาของการจัดงาน  “รวมพลังน้ำใจไทยมอบแด่ทหารชายแดน”  และวันนี้เราได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านผู้บัญชาการทหารบก พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  ที่มาพูดคุยถึงภารกิจกองทัพบกในทุกๆ มิติ   เริ่มต้นวัตถุประสงค์ที่สำคัญของการจัดงานในครั้งนี้เรามีความมุ่งหวังอย่างไร
ผบ.ทบ.  :    “รวมพลังน้ำใจไทย  มอบแด่ทหารชายแดน”  ในวันนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเงินที่ได้รับบริจาคจากรายการพิเศษในวันนี้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายร่วมสบทบเข้ามูลนิธิสวัสดิการทหารบก   เพื่อเป็นเงินทุนในการสงเคราะห์ให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ  หรือครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติทั้งในพื้นที่ชายแดน  และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย   ขอเรียนว่าอำนาจกำลังรบของเรานั้นไม่ใช่เฉพาะ คน อาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น  แต่มีอำนาจกำลังรบที่ไม่มีตัวตนอยู่ด้วยนั่นคือขวัญและกำลังใจ เราจึงมาดูแลเรื่องขวัญกำลังใจกำลังพลที่ทำงานภาคใต้ด้วยความเสียสละมาโดยตลอด
พิธีกร  :       ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทั้งยามสงบหรือว่ายามที่เกิดภัยพิบัติ  กำลังพลของกองทัพบกอยู่ในทุกๆ พื้นที่  เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน   ภารกิจโดยภาพรวมการปฏิบัติงานของกองทัพบก ในห้วงที่ผ่านมา
ผบ.ทบ.  :    ทุกวันนี้เราทำงานภายใต้หลักการที่มีอยู่เดิมคือพันธกิจ  ๔  ประการของกองทัพบก  ประการที่หนึ่งคือเรื่องของการป้องกันประเทศ  เป็นการป้องกันชายแดน ซึ่งประเทศไทยมีชายแดนติดต่อประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดประมาณ ๕,๖๐๐  กิโลเมตร เป็นพื้นที่ทางบก  โดยใช้กองกำลังทั้งหมด ๗ กองกำลังด้วยกัน  มีกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ประมาณ ๔๐,๐๐๐คน    สิ่งนี้คือกองกำลังชายแดน  ส่วนที่สองคือภาคใต้  เรามีกำลังประมาณ  ๔๐,๐๐๐ คน เหมือนกัน  สรุปแล้วเรามีคนทำงานในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งแนวชายแดน และภาคใต้ด้วย ทั้งหมดรวมประมาณ ๘๐,๐๐๐ คนต่อวัน  ซึ่งเป็นกำลังพลที่มากพอสมควร  หน้าที่แรกคือการปกป้องอธิปไตย  การป้องกันชายแดน   หน้าที่ประการที่สองตามภารกิจคือในเรื่องของการรักษาความมั่นคงภายใน  ซึ่งมีหลายประการด้วยกัน  ทั้งในรูปแบบของการปฏิบัติตามกฎหมายพิเศษหรือการให้การสนับสนุนส่วนราชการอื่นๆ  การดูแลปฏิบัติการในการบังคับใช้กฎหมายซึ่งต้องมีคำสั่งพิเศษ  ในภารกิจที่สามคือเรื่องของการพัฒนาประเทศ  ซึ่งในยามปกติเรามีเครื่องมือ  มีกำลังพลทหาร ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ตลอด๒๔ ชั่วโมง  และพร้อมช่วยเหลือในการพัฒนาประเทศได้ตลอดเวลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันได้ไปก่อสร้างเส้นทาง ทำถนนทำเขื่อน  ทำในเรื่องของการฟื้นฟูบูรณะการบรรเทาภัยพิบัติด้วย ประการที่สี่เรามีความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศรอบบ้านเรา ๕,๖๐๐ กิโลเมตร ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดี รัฐบาลต่อรัฐบาล  ทหารต่อทหารมีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีมีในทุกระดับ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารที่อยู่เผชิญหน้ากันตามแนวชายแดน  บางพื้นที่ห่างกันไม่ถึงร้อยเมตรที่รักษาชายแดนกันอยู่  บางพื้นที่ห่างกันมากพอสมควร  แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการพบปะเยี่ยมเยือนกันในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นทหารในแนวหน้า ระดับกลาง ระดับสูง มีการประชุมข่าวร่วม  มีการประชุม อาร์บีซี  จีบีซี  เจบีซี  กันมาทุกระดับ  และมีการแลกเปลี่ยนการเยี่ยมเยือนกัน  วันนี้กองทัพบกให้มีการเยี่ยมเยือนถึงระดับครอบครัวด้วยเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ  เพราะการสร้างความสัมพันธไมตรีกับเพื่อนบ้านนั้น  หลักการคือต้องสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน  ลดความหวาดระแวง  เพื่ออย่างอื่นจะได้เดินไปได้  ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่เฉพาะทางด้านการทหารอย่างเดียว ต้องด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ  ตราบใดก็ตามที่ยังไม่มีการสู้รบ ไม่มีการละเมิดอธิปไตย       ไม่มีการปฏิบัติที่นอกกติกากัน คงต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้นำทางทหารกับประเทศเพื่อนบ้าน  ผมได้ไปเยี่ยมเยือนเวลามีการประชุมผู้บัญชาการทหารบกเอเซียแปซิฟิกอยู่เสมอ  เพื่อให้เกิดความแน่นแฟ้น  เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาจะได้คุยกันได้  ถ้าไม่มีช่องทางพวกนี้ไว้คงต้องรบกันอย่างเดียว    จะทำให้เกิดการสูญเสียของทั้งประชาชนและทหารด้วย  แต่อย่างไรก็ตามเราต้องเข้มแข็งอยู่เสมอ  ไม่ต้องเป็นห่วง
พิธีกร  :         ส่วนในพื้นที่ที่ถือว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่  ที่มีความท้าทายและเสียสละ อย่างมากนั้นก็คือพื้นที่ชายแดนภาคใต้  ด้วยความสลับซับซ้อนของปัญหาต่างๆ แนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นี้เป็นอย่างไรบ้าง
ผบ.ทบ.  :      ได้มีการพัฒนาไปตามลำดับ แต่สถานการณ์ที่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ ปี ๒๕๔๗  ประมาณ เกือบสิบปีมาแล้ว ในช่วงแรกมีปัญหามากพอสมควร  เพราะว่าส่วนราชการอื่นๆไม่สามารถเข้าไปทำงานได้  ส่วนราชการและกำลังประจำถิ่น กำลังกองทัพภาคที่ ๔ ที่มีอยู่ไม่เพียงพอ  กำลังของฝ่ายพลเรือน  ตำรวจ  ลงไปทำงานไม่ได้เพราะเกิดความขัดแย้งในทุกพื้นที่  ทุกตำบล   ทุกหมู่บ้าน ซึ่งถูกปลุกเร้าขึ้นมา  ฉะนั้นในระยะแรกคือเราได้นำยุทธศาสตร์พัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงไปปฏิบัติ คือ การเข้าใจ  การเข้าถึง  การพัฒนา  เข้าใจพื้นที่  เข้าใจประชาชน  เข้าใจปัญหา เข้าให้ถึงปัญหาเหล่านั้นว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร  จากนั้นนำไปสู่การพัฒนาให้ตรง ทั้งพัฒนาจากภายนอกและภายในโดยทางรัฐบาล  ทางข้างบนกำหนดลงไป และทางความต้องการของประชาชนข้างล่างเสนอขึ้นมา  ซึ่งประกอบหลายมิติด้วยกัน  ในระยะแรกตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ จนกระทั่งถึง ๒๕๕๓  ผมได้กำหนดว่าเป็นระยะที่หนึ่ง เพราะเราเอา กอ.รมน. ลงไป คือปกติแล้วทั้งประเทศจะดูแลโดยรัฐบาล  โดยการปกครองส่วนกลาง  ส่วนภูมิภาค  ส่วนท้องถิ่นอยู่แล้ว  เมื่อใดก็ตามที่พื้นที่ไหนไม่ปลอดภัยต้องเอาหน่วยงานไปเสริม คือหน่วยงาน กอ.รมน. อย่างเช่นระยะแรก  ซึ่งมี  ศอ.บต.ไปดูด้วย  ในขณะนั้นเรื่องการพัฒนา  ทั้งสองส่วนได้แก้ปัญหามาจนกระทั่งถึงปี ๒๕๕๓  ส่วนราชการสามารถเข้าไปถึงในทุกพื้นที่ได้ เดิมทีเข้าไปไม่ได้ ประมาณสองร้อยกว่าหมู่บ้านเข้าไปไม่ได้เพราะถูกต่อต้านถูกประท้วงถูกปิดล้อมมาโดยตลอด เราได้ไปสร้างความเข้าใจ ไปสร้างความปลอดภัยในพื้นที่และดูแลทรัพย์สินให้ได้ในระดับหนึ่ง  คือเป็นระดับที่ทำให้ส่วนการศึกษาลงไปได้  ถ้าเราไม่ไปดู ไม่เอากำลังพลไปเพิ่ม เข้าไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะว่าความขัดแย้ง    มีมาก  พอสามารถทำได้ในระดับหนึ่ง  ปี ๒๕๕๔ เป็นระยะที่สองคือการสร้างความเข้มแข็งให้กับ ทุกส่วนราชการในพื้นที่  ต้องเตรียมความพร้อมว่าถ้าสถานการณ์ยุติลงเขาจะอยู่กันอย่างไร  ระยะ ที่สองต้องเร่งรัดการพัฒนาในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็งกำลังพลประจำถิ่น เพราะทหารที่ลงไป  ๔ หมื่นคนไม่สามารถอยู่ได้ตลอดเวลา  เพราะทหารเหล่านี้มาจากกองทัพภาคที่ ๑  ภาคที่ ๒    ภาคที่ ๓ จากต่างพื้นที่ไปด้วย  แต่ก่อนลงไปเรามีการฝึกอย่างน้อยหกเดือน แล้วในระหว่างปีนั้น    มีการเตรียมการคู่ขนานไปด้วย  ติดตามสถานการณ์แล้วเอาบทเรียนจากการปฏิบัติต่างๆ มาฝึกกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งวัฒนธรรมประเพณี  เพราะฉะนั้นอย่ากังวลว่าเราลงไปแล้วไม่รู้อะไร     เรื่องการเตรียมพื้นที่  การเตรียมสนามรบเรามีหมด  สถานการณ์ทางด้านการข่าวเป็นการทำงานของทหารอยู่แล้ว  ส่วนใหญ่กังวลว่าเอาทหารจากต่างจังหวัดไปจะรู้เรื่องไหม  รู้ครับเพราะว่าวันนี้ไปหลายรอบแล้ว  แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือในระยะที่สองนี้เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคประชาชน ให้กำลังประจำถิ่น ตำรวจ  อส.  ฝ่ายปกครองให้เขาเข้มแข็งพอที่เขาจะรับมอบหน้าที่ในระยะที่สามได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้เราอยู่ในระยะที่สอง คือเตรียมความพร้อม  วันนี้มีการจัดตั้งตำรวจ และ อส. เพิ่มเติม  ทหารเข้าไปดูแลฝึกหัด  เพิ่มพูนขีดความสามารถ เพิ่มเครื่องมือ ให้เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถดูแลสถานการณ์ไว้ได้ ระยะที่สองนี้เป็นระยะที่สำคัญ ซึ่งวันนี้เราได้เอากฎหมายได้แยก กอ.รมน. กับ ศอ.บต. ออกจากกัน  เพื่อให้เกิดการบริหารได้กว้างขวางขึ้นและได้มีการใช้คนหลายกลุ่มมาทำงานภาคใต้ ทหารจัดกำลังไปสนับสนุนงานของ กอ.รมน.เท่านั้น ผมไปทำงานในฐานะรอง ผอ.กอ.รมน. ในฐานะที่มีกำลังทหารบกมากที่สุดต้องไปดูแลเขา นโยบายต่างๆ ที่กำหนดโดยรัฐบาล ที่ผ่านมาทั้งหมดเน้นในเรื่องของการสร้างความเข้าใจ การบังคับใช้กฎหมาย การไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน การพัฒนา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาด้านการศึกษานั้น             มีความสำคัญมาก  เพราะมีการสอนเรื่องศาสนาในโรงเรียนเอกชนซึ่งเป็นสิ่งที่ดี  ศาสนาทุกศาสนาเป็นสิ่งที่ดีทั้งหมด และเราไม่ได้ถือว่าคนเหล่านี้เป็นศัตรู  ทำอย่างไรเยาวชนหรือประชาชนในภาคใต้  จากการเรียนรู้เรื่องศาสนาในโรงเรียนเอกชนแล้วมาต่อในโรงเรียนสามัญได้อีก  โรงเรียนของรัฐต้องรองรับในเรื่องพวกนี้ คือมีทุนการศึกษาให้มีสถานพักแรมให้เหมือนกับโรงเรียนประจำ เพื่อให้เขาไม่หลุดหายไปจากระบบการศึกษาไทย  วันนี้กำลังทำในเรื่องนี้อยู่  ในระยะที่สองได้มีการเสนอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานที่จะขับเคลื่อนเพิ่มเติม  เดิมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อำนาจในการปกครองมีอำนาจทางกฎหมายคือเรื่องของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่นนี่คือปกติ  พอไม่ปกติขึ้นมาต้องเอา กอ.รมน. ไปดูในเรื่องของงานความมั่นคงเพิ่มเติมอีกแท่งหนึ่ง  ส่วนที่สองคือ ศอ.บต. แท่งที่สามคือแท่งงานปกติเดิม  เพราะฉะนั้นเราลงไปเสริม  เมื่อไหร่ก็ตามที่สองแท่งนี้ทำงานได้ผลดีเรียบร้อย แท่งสามนี้แข็งแรง เราจะถอนสองแท่งนี้ออก แท่งที่สามคือแท่งของรัฐบาล  กระทรวง หรือส่วนราชการของแต่ละกระทรวงทำงานได้เต็มที่ วันนี้ทั้งสามแท่งยังคงเป็นสามแท่งทำงานอยู่ในขณะนี้  แต่ทั้งหมดนี้ผู้ปฏิบัติงานข้างล่างที่ควบคุมนี้เป็นไปตามกฎหมาย คือในส่วนของแม่ทัพภาคที่ ๔ ต้องเป็น ผอ.รมน.ภาค ๔ ส่วนหน้า เป็นคนที่เอานโยบายลงไปปฏิบัติ  เรามี ๓ ระดับ ระดับรัฐบาล ระดับขับเคลื่อน และระดับผู้ปฏิบัติ  วันนี้ รัฐบาล  นายกรัฐมนตรีท่านเป็นทั้งสามแท่ง ทั้ง กอ.รมน.  ศอ.บต. และกระทรวง ทบวง กรม  ตรงกลางตรงนี้เป็น กอ.รมน.  ศอ.บต. เป็นคนขับเคลื่อนงานความมั่นคงกับงานพัฒนา  ข้างล่างคือผู้ปฏิบัติ คือกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า  ซึ่งต้องทำทั้งงานความมั่นคง  งานพัฒนาและงานของกระทรวง เพราะมีกฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคง  ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดเป็น ผอ.รมน.จังหวัด  แม่ทัพเป็น ผอ.รมน.ภาค จะเห็นว่าเราบริหารงานไปตามกรอบของกฎหมายและตามยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาภาคใต้ของ สมช.  ซึ่งกำหนดโดยรัฐบาล มาตามห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา  หลายปีมาแล้วได้ปรับมาเรื่อยๆ วันนี้ มีอยู่ ๙ ข้อด้วยกัน  การพัฒนาการในเรื่องของการแก้ปัญหาภาคใต้ดีขึ้นตามลำดับ ผมไม่อยากใช้ คำว่าสถานการณ์ดีขึ้นเพราะว่าบาดเจ็บน้อยลง  มากขึ้นน้อยลงเราพูดไม่ได้  เพราะตราบใดก็ตามยังมีคนที่มีความเห็นต่างอยู่คงต้องมีการต่อสู้  การต่อสู้ที่ว่าถ้าต่างคนต่างใช้กำลังเข้าไปใช้ความรุนแรงเข้าไปปราบปราม  ปัญหาคือเราเป็นคนอยู่ในชาติเดียวกันเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้นเพียงแต่นับถือศาสนาคนละศาสนา  ซึ่งมีข้อควรระมัดระวังหลายประการด้วยกัน ทั้งในเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ   เรื่องขององค์กรระหว่างประเทศ เรื่องของสิทธิมนุษยชน  วันนี้เราแก้ปัญหาด้วยความระมัดระวัง ไม่อยากให้ยกระดับไปถึงองค์กรระหว่างประเทศ  แต่อย่างไรก็ตามเราให้ความสำคัญ  เราไม่สบายใจเรื่องการบาดเจ็บและสูญเสีย  ที่จริงแล้วเป็นห่วงประชาชนที่สุด ไม่อยากให้ใครบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว จะทำให้การบาดเจ็บหรือสูญเสียน้อยลงคงต้องสร้างความเข้าใจกัน          มียุทธศาสตร์อยู่อันหนึ่งคือยุทธศาสตร์ข้อที่ ๘ ของ สมช. กำหนดไว้ว่าการเปิดเวทีเพื่อพูดคุยแสวงหาทางออกโดยการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี  มีการดำเนินการโดยรัฐบาลอยู่แล้วในปัจจุบัน เราในฐานะฝ่ายความมั่นคงต้องสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกิดบรรยากาศในการพูดคุยด้วย   ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายเมื่อคุยกันต้องคุยกันดีๆ แต่วันนี้ยังไม่เรียบร้อย  ฝ่ายความมั่นคงยังคงทำงานตามยุทธศาสตร์เดิมอยู่คือเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การบังคับใช้กฎหมาย การพัฒนา การอำนวยความยุติธรรม ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน  ไม่ยกระดับไปสู่สากล  ไม่ให้องค์กรต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง  วันนี้แนวโน้มสถานการณ์ในปัจจุบันมีการพัฒนาที่ดีขึ้นไปตามลำดับ อย่างไรก็ตามยังคงต้องระมัดระวังในเมื่อสถานการณ์ไม่ปกติ  ทุกคนไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่  ถ้าบอกว่าเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง ผมยอมรับว่าไม่ทั่วถึงแน่เพราะว่าพื้นที่กว้างขวางมากหลายพันตารางกิโลเมตร  และมีเป้าหมายอ่อนแอเป็นจำนวนมากและทุกคนนั้นไม่ได้ถูกจำกัดเสรีในการเคลื่อนไหว การสัญจรไปมาหรือการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนเลย  ในวันนี้มีแต่ด่านตรวจจุดสกัด     เท่านั้นเอง  ซึ่งเราไม่สามารถทำได้ทั้งหมด  อย่างไรก็ตามเราพยายามทำให้เต็มที่ ทั้งคนและเครื่องมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน  ได้บูรณาการทำงานกันอยู่แล้ว  สถานการณ์วันนี้พัฒนาการไปในทางที่ ดีขึ้น  คือมองในแง่ของประชาชนนั้น รู้สึกประชาชนในพื้นที่มีความสุขมากขึ้น คือออกมาร่วมกิจกรรมงานต่างๆ มากขึ้น มาทำบุญ  ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาเงียบไปหมดไม่มีคนกล้าออกมา  มีการให้ความร่วมมือมากขึ้น มีความเข้าใจในการทำงานของรัฐมากขึ้น  สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดคือยังไม่มีใครเข้ามายุ่งเกี่ยวการแก้ปัญหาภายในประเทศไทยแม้กระทั่งองค์กร โอไอซี  องค์กรโลกต่างเข้าใจ เพราะเรานำเสนอไปด้วยว่าเราทำงานด้วยยุทธศาสตร์พระราชทาน  สองคือยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา ๙ ข้อ  แล้วใช้การแก้ปัญหาโดยการสร้างความเข้าใจด้วย ไม่ใช้มิติเดียวคือการใช้กำลัง  เพราะการต่อสู้กันระหว่างคนในประเทศเดียวกันนี้ต้องระมัดระวัง อยากขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนให้ช่วยกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลตนเอง  เช่นเวลากลางคืนสัญจรไปมาต้องช่วยกันระมัดระวัง วันนี้ทหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ พลเรือน ทุกคนที่ทำงานในภาคใต้ รวมกันแล้วในแต่ละวันเรามีภารกิจทำงานทั้งหมดประมาณ ๓,๕๐๐ ภารกิจตั้งแต่เช้าถึงกลางคืน ภารกิจหนึ่งประมาณอย่างน้อย ๑๐ คน รวมก็ ๓๕,๐๐๐คน คือเป้าหมายทั้งหมด เพราะฝ่ายโน้นไม่เลือกที่จะ ทำร้ายใครนี่คือเฉพาะทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่  และยังมีประชาชนอีก ๒ ล้านคนที่เขาพร้อมจะทำร้ายใครก็ได้  ต้องมองว่าสิ่งที่เราทำได้ในวันนี้คือเราป้องกันเหตุการณ์ได้มากเกิน ๙๐ เปอร์เซ็นต์   ถ้าเทียบถึงสัดส่วนตรงนี้  เพราะฉะนั้นคนที่บาดเจ็บสูญเสียยังต้องมีอยู่แน่นอน เพราะเราไม่สามารถเอาคนมาอยู่ร่วมกัน กำหนดเส้นทางให้ไปเส้นทางเดียวกันหรือไม่ให้ออกในยามวิกาลได้  ทุกคนยังมีเสรีและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจากเดิมค่อนข้างเป็นพื้นที่กว้างหลายหมู่บ้าน  ประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าหมู่บ้านที่ต้องเข้าไปดูแล ๓๗ อำเภอ ๓ จังหวัดรวมอีก ๔ อำเภอของสงขลาเป็นพื้นที่ไม่ใช่น้อย  แล้วประชาชน ๒ ล้านกว่าคนมีทั้งพุทธและมุสลิม คนใต้เป็นคนน่ารัก ผมไปพบมาทุกครั้ง ทั้งพุทธมุสลิมเขาเคยอยู่กันมาโดยสันติ ปี ๕๗  เรากำลังเตรียมการเข้าไปสู่ระยะที่สามคือเมื่อสถานการณ์เป็นปกติ  เราจะส่งมอบพื้นที่คืน  แต่วันนี้ยังไม่ปกติคงส่งคืนไม่ได้ เมื่อคืนไม่ได้ต้องสร้างความเข้มแข็ง ปี ๕๗  ผมได้กำหนดนโยบาย โดยขออนุมัติท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กอ.รมน. ขอกำหนดนโยบายเชิงรุกในทุกมิติ หน่วย ๖ กลุ่มงานที่กำหนด ตาม กปต. ที่ได้กำหนดขึ้นมา คือ กปต. เป็นการขับเคลื่อนของรัฐบาล ให้ทั้ง ๑๗ กระทรวง  ๖๖ หน่วยงานลงมาช่วยทำงานในหน้าที่ของเขา ทหารไปขับเคลื่อนไม่ได้เพราะทหารมีแต่อาวุธอย่างเดียว  มีอาวุธในการคุ้มครองดูแลประชาชน  ดูแลข้าราชการได้ เพราะฉะนั้นต้องเอาคนของเขาลงไปทำงาน  ถึงต้องมี กปต. และเป็นเหมือนฝ่ายเสนาธิการให้กับนายกรัฐมนตรีในฐานะเป็น ผอ.กอ.รมน.ด้วย จะได้ขับเคลื่อนทั้งสามแท่งไปได้พร้อมๆกัน 
โดยสรุปแล้วสถานการณ์ภาคใต้เรายังคงทำงานอย่างเต็มที่  และไม่มีทหารคนไหนที่ไม่พร้อมจะทำงานนี้  ทุกคนอาสา  ทุกคนอยากไป  เพราะสิ่งนี้เราต้องมาดูแลขวัญกำลังใจเขา เมื่อเขาไม่อยู่บ้านใครดูแลครอบครัวของเขา  ทหารต้องไปรบ ไปทำงานข้างหน้า เขาเสียสละ  ผมไม่อยากบอกว่าเพราะเงินเดือนน้อยหรืออะไรต่างๆ เมื่อทุกคนเลือกมาเป็นทหารต้องยอมรับว่ามีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยงเท่านี้ แต่สิ่งที่เราให้กลับไปได้คือขวัญและกำลังใจ  เวลาทหารไปทำงานแล้วบาดเจ็บมีเงินตอบแทนให้พอสมควร  ถ้าพิการก็มีเงินไปดูแลเขาหรือถ้าเขาเสียชีวิต  วันนี้กองทัพบกต้องดูแลภรรยาของทหารที่เสียชีวิต หางานให้เขาทำ เพื่อเป็นรายได้ดูแลครอบครัวและส่งลูกเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี นี่คือภาระที่กองทัพบกทำอยู่ วันนี้ต้องหาเงินเหล่านี้มาเพิ่มเติม  ที่ผ่านมามีผู้มีจิตศรัทธาเป็นจำนวนมากได้ช่วยเหลือมาโดยตลอด  มีเงินพระราชทานเวลาบาดเจ็บ สูญเสียซึ่งพระราชทานมาส่วนหนึ่ง  อีกส่วนหนึ่งต้องดูแลคนที่รักษาพยาบาลอยู่โรงพยาบาล บางทีอยู่เป็นปีและต้องปลดพิการออกไป ซึ่งต้องมีรายเดือนให้ลูกเมียเขามาเฝ้าไข้ เมื่อเขาปลดพิการไปแล้วต้องตามไปดูแลเขาอีกว่าเขาอยู่ในสังคมได้ ไม่ใช่ปล่อยเขาไปทำอย่างอื่น ไม่มีเงิน ให้พ่อแม่เขาเป็นภาระได้ ถ้าทุกคนได้ยินเวลาพ่อแม่เขาพูดกับผม  คนที่บาดเจ็บสูญเสียน่าเห็นใจเขา  เขาบอกเวลาลูกเขามาทำงานเสียสละเต็มที่มาครบทุกอย่างแต่เมื่อไปรบแล้วกลับมาอยู่บ้าน เขาดูแลไม่ไหวเพราะฐานะเขายากจน  เขาต้องกลับมาเลี้ยงลูกเขาอีกครั้ง ขอให้กองทัพบกช่วยเขา  ถึงได้มีตรงนี้
พิธีกร  :     ต้องขอบคุณกองทัพบกที่ไม่ทอดทิ้งกำลังพล และดิฉันเชื่อว่าไม่เฉพาะแค่กองทัพบกเท่านั้น  ประชาชนคนไทยไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคไหนเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ไปจนถึงประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง  และวันนี้คุณผู้ชมมีส่วนร่วมที่จะรวมพลังน้ำใจไทยมอบแด่ทหารชายแดนได้ด้วย  ท้ายที่สุดนี้อยากให้ท่าน ผบ.ทบ. ได้ฝากเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่จะช่วยกันสร้างขวัญและกำลังใจ  และส่งมอบกำลังใจที่สามารถจับต้องได้นี้ไปถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคนด้วย
ผบ.ทบ.  :    ขอฝากไว้กับประชาชนทุกคนด้วยว่าปัญหาความมั่นคงของเรานั้น  จะสลับซับซ้อนขึ้นไปมากในอนาคต  เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนมีจิตสำนึกในการป้องกัน  ในการเฝ้าระวังต่างๆเพื่อเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย  ทั้งชายแดน ภาคใต้  แม้กระทั่งการก้าวเข้าสู่เป็นประชาคมอาเซียนในอนาคตประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลงานด้านความมั่นคง  อย่าปล่อยให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่  เพราะเจ้าหน้าที่มาเพื่อแก้ปัญหา เราต้องเฝ้าระวัง  ฝากหน้าที่ในเรื่องของงานด้านความมั่นคงไว้กับประชาชนทุกคนด้วยถือว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนเพราะเป็นประเทศของเรา  อีกเรื่องหนึ่งคือการสร้างความเข้าใจในวิธีการแก้ปัญหา  เรามีกระบวนการในการแก้ปัญหาซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหานอกกติกาได้  โดยมียุทธศาสตร์  มีแผนงาน ที่วางไว้ล่วงหน้าไว้แล้วทั้งสิ้น เราได้อาศัยจากบทเรียนในอดีต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ตำรา หลักนิยมต่างๆมาประมวลเข้าด้วยกัน  แล้วนำเข้าสู่กระบวนการในการแก้ปัญหา มีการขับเคลื่อน มีการฝึกการหัดให้มีความพร้อม ต้องระมัดระวังด้วยในการแก้ปัญหาภาคใต้หรือปัญหาชายแดน เพราะเรากระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านมากไม่ได้เพราะประเทศอยู่ติดกัน  ต่างฝ่ายต้องช่วยกันรักษากติกา แล้วต้องระมัดระวังโดยเฉพาะในเรื่องการสื่อความหมาย  การสร้างการรับรู้ที่ไม่ถูกต้อง การวิเคราะห์วิจารณ์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  ไม่มีหลักการ  บางครั้งทำให้เกิดความเข้าใจผิดแล้วปัญหาจะสลับซับซ้อนแก้ไขได้ยากขึ้น  พวกเราที่เป็นเจ้าหน้าที่ก็หนักใจ ทุกวันนี้เราเป็นกองทัพที่เข้มแข็ง ขอให้ทุกคนได้มั่นใจในทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ทางทหารโดยตรง  ผมประกันได้เลยว่ากองทัพบกไทยไม่ได้น้อยหน้าใครในอาเซียน  หลายประเทศที่ผมไปมาเราเป็นประเทศที่มีทหารที่เข้มแข็งแล้วเป็นทหารที่มีระเบียบวินัย  เพราะฉะนั้นอย่าเอาทหารเอาภารกิจทหารไปเกี่ยวกับเรื่องอื่น  วันนี้ต้องเข้าใจทหารให้ดี แล้วเป็นกำลังใจให้ทหาร  ท่านต้องภูมิใจว่าท่านมีทหารที่เข้มแข็ง มีทหารที่เขาพร้อมปฏิบัติงานปฏิบัติตามคำสั่งทุกประการ เชื่อมั่นในสายการบังคับบัญชา อยู่ในกฎกติกา กฎระเบียบ  อย่าพูดจาให้ร้ายหรือทำให้ทหารหมดกำลังใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วอำนาจกำลังรบที่ไม่มีตัวตนจะลดลง ต่อให้ท่านแข็งแรงประการใด  ต่อให้ท่านมีอาวุธยุทโธปกรณ์ประการใด แต่ถ้าจิตใจเขาไม่แข็งแรงไม่เข้มแข็ง คงรบไม่ชนะ  ทุกภารกิจคงไม่ประสบความสำเร็จ  ขอฝากไว้ด้วย ฝากประชาชนทุกคนเป็นกำลังใจให้ทหารด้วย    
                                            
..............................................
          แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                              ตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ให้ สลก.ทบ. ส่งคำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ.ต่อสือมวลชน  เพื่อให้หน่วยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ ปชส. ในพื้นที่  และ ให้ ศทท.นำลงเว็บไซต์ ทบ.