วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ข่าวประชาสัมพันธ์ ทบ.

คำสัมภาษณ์ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ต่อสื่อมวลชน
ประจำวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๖  เวลา  ๐๘๐๐  ณ  กองการบิน ขส.ทบ.

สื่อมวลชน      :         ลงพื้นที่นราธิวาส เน้นเรื่อง
ผบ.ทบ.          :               วันนี้จะลงไปพื้นที่ภาคใต้ ไปติดตามการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ภาค ๔ ส่วนหน้า และติดตามการบูรณาการร่วมกับทาง ศอ.บต. และส่วนราชการอื่นๆ ในพื้นที่ด้วย  ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามีผลการปฏิบัติในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการปฏิบัติตามกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย การติดตามผู้ที่มีหมายต่างๆ  เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย มีผลการดำเนินการมากพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา  มีข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเพื่อจะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน  ในส่วนของประชาชน  ในขณะนี้ทราบว่ามีการสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังทุกภาคส่วน ในส่วนของกำลังฝ่ายพลเรือนที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่จะติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการประจำอำเภอ ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันทั้งกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหารในพื้นที่  ในส่วนของด้านงานพัฒนาต่างๆ  สิ่งสำคัญในขณะนี้คือในเรื่องของความปลอดภัยของกำลังพล และของประชาชนในพื้นที่  ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหารอยู่ในกรอบงานของ กอ.รมน.  เพราะฉะนั้นการจัดหาอุปกรณ์เหล่านี้ต้องใช้กระบวนการและจัดหาตามความเร่งด่วน ความจำเป็นในการใช้งาน อาทิเช่น สิ่งอุปกรณ์ในการป้องกัน เรื่องการตัดสัญญาณระเบิดอะไรต่างๆ เหล่านี้ หรือแม้กระทั่งชุด เครื่องแต่งกายของ EOD เหล่านี้มีอายุการใช้งานอยู่ ซึ่งเราก็มีการจัดหาจัดซื้อทดแทนตามระยะเวลาที่กำหนดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่างบประมาณที่ได้รับมาบางครั้งก็ไม่สามารถจะได้มาในครั้งเดียว เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาในการจัดหาหลายๆ ปี แต่เราจัดทำแผนงานที่สอดคล้องกันอยู่แล้ว ต้องขอให้เข้าใจในวิธีการปฏิบัติงานด้วย  เพราะบางอย่างเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การใช้จ่ายงบประมาณ  เรื่องการปฏิบัติการตามกฎหมายวันนี้มีการติดตามคดีหลายคดีด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการใช้ระเบิด การลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ประชาชน  มีการควบคุมตัวผู้กระทำผิด บางคนรับสารภาพ ทำให้การสอบสวนมีความก้าวหน้าไปตามลำดับ อันนี้เป็นไปตามนโยบายของ กอ.รมน. ซึ่งท่าน ผอ.รมน. ได้ย้ำในเรื่องนี้อยู่เสมอว่าในเรื่องของการดูแลกำลังพลให้ปลอดภัย ดูแลประชาชนให้ปลอดภัย สร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังพลทุกภาคส่วน  จะไปติดตามงานพวกนี้ทุกครั้งที่ลงไป  และสอบถามกำลังพลว่าเขามีปัญหาในเรื่องอะไรบ้าง  ไม่ว่าจะด้านสิทธิกำลังพล หรือความเข้าใจในการปฏิบัติงานต่างๆ เพราะว่าทุกคนต้องตอบคำถามสังคมได้ในการทำงาน      เมื่อวานนี้ได้พบปะกับท่านผู้บัญชาการทหารบกมาเลเซียท่านใหม่ มาเยี่ยมอย่างเป็นทางการได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาตามแนวชายแดน  ปัญหาความมั่นคงภายในตามแนวชายแดนซึ่งมีผลกระทบทั้งสองประเทศอยู่แล้ว ท่านรับว่าท่านจะเพิ่มความร่วมมือในทุกมิติให้มากขึ้นกว่าเดิม  ยังเป็นปัญหาอยู่บ้างในการสกัดกั้นตามแนวชายแดน คือระยะทางกว้างไกล แล้วมีทั้งทางน้ำทางบกอยู่ด้วย จำเป็นต้องอาศัยทั้งคนทั้งเครื่องมือ และประชาชน กำลังพลในท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่นั้นต้องช่วยกันดูแลด้วยเพื่อจะได้เป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่  เพราะเราไม่สามารถจะไปอยู่ในพื้นที่ได้  ปัญหาอีกประการคือช่วงนี้เป็นช่วงโรงเรียนเปิดเทอม  คงต้องเน้นให้กำลังพลนั้นได้ระมัดระวังในการดูแลความปลอดภัยให้กับครู และนักเรียน  จะเห็นได้ว่าเราพยายามจะปรับรูปแบบการปฏิบัติงานไปตลอดเวลา  ขณะเดียวกันอีกฝ่ายหนึ่งก็พยายามปรับไปเหมือนกัน   
สื่อมวลชน      :         เมื่อวานได้มีการพูดคุยเรื่องการหารือกับบีอาร์เอ็น กับ ผบ.มาเลเซียไหม
ผบ.ทบ.          :               ไม่ได้คุยเฉพาะเจาะจงว่าไปพูดคุยอะไรกับใคร  คือหลักการของเรา เรากับประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะมีปัญหาในประเทศใดก็ตาม มีผลกระทบต่ออีกประเทศหนึ่งเสมอ เพราะเราเป็นประเทศที่มีอาณาเขตใกล้เคียงกัน ติดกัน  ทางมาเลเซียชื่นชมว่าการทำงานของเรานั้นเป็นที่ยอมรับ เห็นใจว่าประเทศไทยนั้นมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านถึง ๕,๖๐๐ กว่ากิโลเมตร  ประเทศของเขาเองมีเพียงแค่ไม่เกิน ๕๐๐ กิโลเมตร เขารับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความหลากหลายของปัญหา แล้วมีความยากในการปฏิบัติงาน เขาชื่นชมเราและสนับสนุนการแก้ปัญหาทุกอย่างของเรา เพื่อให้เกิดผลดีกับทั้งสองประเทศ มีความร่วมมือหลายๆ มิติไม่ว่าจะด้านความมั่นคง ภัยคุกคามในรูปแบบใหม่  และมีการพูดคุยหมายถึงว่าเราจะปลูกฝังให้ประชาชนทั้งสองประเทศตามแนวชายแดน หรือแม้กระทั่งในประเทศของเรานั้นให้ความสำคัญกับงานด้านความมั่นคงอย่างไร ทุกคนต้องช่วยกัน เจ้าหน้าที่ทำงานตามหน้าที่ ตามภารกิจ ตามกฎหมายด้วย  ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังให้ แล้วสร้างความเข้มแข็งให้กับเยาวชนรุ่นหลัง  เพราะว่าเราจะต้องเปิดประเทศไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘  มีทั้งวิกฤตและโอกาสซึ่งจะมีผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนทั้งหมด ถ้าเรารวมกันได้จะสามารถป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบใหม่ได้  โอกาสของประชาคมอาเซียนจะมีมากขึ้นในการที่จะเพิ่มอำนาจในการดำเนินงานทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมกับประชาคมอื่นๆ ในอนาคตด้วย
สื่อมวลชน      :         การพูดคุยครั้งที่ ๔ นอกจากบีอาร์เอ็นแล้วจะมีพลูโลเข้ามาด้วยใช่ไหม
ผบ.ทบ.          :               ทุกกลุ่ม  บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าพร้อม  ตามยุทธศาสตร์แล้วต้องคุยกับทุกภาคส่วน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญ  ยังไม่มีการตกลง ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสมาพูดคุย  แล้วแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธี  ในขณะเดียวกันทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกิดบรรยากาศในการพูดคุยที่ดี  แต่ยังไม่มีข้อยุติอะไรทั้งสิ้น  ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติงานให้มากยิ่งขึ้น  มีการทำงานเชิงรุกมากขึ้น  ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย และได้รับการยอมรับจากสากลเขาด้วย เพราะเราถูกจับตามองจากหลายๆ ส่วน แม้กระทั่งในประเทศเราเอง ต่างประเทศ ในสังคมโลก เพราะว่ามีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นหลายๆ ประเทศด้วยกันในเวลานี้แม้กระทั่งในอาเซียนด้วยกัน  หลายประเทศที่มีปัญหาความมั่นคงในประเทศ ตามแนวชายแดน  สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือในเรื่องของภัยแทรกซ้อนที่มีในปัจจุบัน ปัญหาหลักเป็นเรื่องของยาเสพติด ในเรื่องของอาชญากรรมข้ามชาติ และในเรื่องของการลักลอบค้าขายของผิดกฎหมาย  ทั้งหมดจะเห็นว่าปัญหาทับซ้อนกันอยู่ในหลายๆ มิติด้วยกัน คงจะต้องร่วมมือกับทุกส่วนราชการในการแก้ปัญหาในกรอบของ กอ.รมน. ภายใต้กฎหมายพิเศษที่ได้กำหนดไว้  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากสากลด้วย                
สื่อมวลชน      :         ถามถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา
ผบ.ทบ.          :         คงต้องเฝ้าติดตามกันดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป  ไม่ว่าจะในการตัดสินของศาลโลกอะไรต่างๆ  ได้มีการประชุมร่วมกันทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  พยายามหาทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในกรอบที่ความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สำหรับการเตรียมการ เรามีความพร้อมอยู่เสมออยู่แล้วในส่วนของกองทัพภาคที่ ๒  อย่างที่เรียนไปแล้วว่าแนวชายแดนเรากว้างไกลและต่อเนื่องเชื่อมโยงถึงกันหมด  เพราะฉะนั้นการปฏิบัติตรงไหนก็ตามจะมีผลกระทบบริเวณอื่นด้วย  เพราะเรามีช่องทางผ่านแดนชั่วคราว ถาวรเป็นจำนวนหลายร้อยแห่ง  เพราะฉะนั้นมีการสัญจรไปมาของประชาชนของทุกประเทศ เมื่อสถานการณ์มีความตึงเครียดก่อน บางจุดบางพื้นที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น  เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการในการลาดตระเวน เพิ่มการปฏิบัติในเรื่องของการสร้างความเข้าใจร่วมกัน ความร่วมมือระหว่างกัน  เพราะเราคงจะต้องทำในทุกมิติ ขณะเดียวกันเราต้องสร้างความเข้มแข็งของกำลังของเราด้วย ซึ่งวันนี้กำลังของเราก็มีความพร้อมในการดูแลอธิปไตยแนวชายแดนอย่างเต็มที่  มีความพร้อมมาตลอดเวลาอยู่แล้ว  
สื่อมวลชน      :         ในพื้นที่มีการรายงานว่าฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลังตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้น
ผบ.ทบ.          :         เขามีการผลัดเปลี่ยนกำลัง และมีการโยกย้ายกำลังอยู่บ้าง มีทั้งไปฝึกและทำงานอื่น เหมือนกันทุกประเทศ  ของเราก็ทำ ของเขาก็ทำ  อย่าถือว่าเป็นการยั่วยุ หรืออย่าถือว่าเป็นการกดดันกัน เพราะอย่างไรก็ตามเราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว มีการติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา  ต่างฝ่ายต่างติดตามสถานการณ์ของแต่ละฝ่ายอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นกังวล
สื่อมวลชน      :         ที่ ผบ.ว่ามีบางจุดที่ตึงเครียดอยู่ มีจุดไหนบ้างที่เราต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ผบ.ทบ.          :         ทุกจุด เพราะมีเส้นเขตแดนต่อกันระหว่างไทย กัมพูชา  ไทย เมียนมาร์  ไทย ลาว  ปัญหาแต่ละด้านแตกต่างกัน บางด้านเป็นความตึงเครียดซึ่งเกิดจากคดีศาลโลกบ้าง  บางพื้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย  ซึ่งอันนี้เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ซึ่งทั้งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงกลาโหม เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกันทุกส่วนราชการ  ทั้งหมดต้องมีการหารือร่วมกัน  ผมเรียนแล้วว่าการแก้ปัญหาความมั่นคงเราไม่สามารถจะแก้ได้โดยทหารอย่างเดียว หรือเจ้าหน้าที่อย่างเดียว  ต้องแก้ปัญหาในทุกมิติเพราะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างกัน  เราจะลดปัญหาได้ต้องมาเอากฎหมายที่มีอยู่มาคลี่คลายว่าจะทำกันอย่างไร  ทำอย่างไรจะไม่เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน  ทำอย่างไรจะเกิดประโยชน์กับประชาชนที่ยังคงทำมาค้าขายไปมาหาสู่กัน ญาติพี่น้องกันตามแนวชายแดน  มากกว่านั้นที่เป็นประเด็นที่ต้องระมัดระวัง ต้องทำความเข้าใจ และต้องใช้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันในทุกมิติในการแก้ปัญหา ไม่ใช่ทหารอย่างเดียว  ถ้าเอาทหารอย่างเดียวรบกันอาจจะทำได้แต่ได้ระยะเวลาจำกัด เพราะวันนี้มีหลายมิติที่ทับซ้อนกันอยู่  อย่างไรก็ตามเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน ต่างคนต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกิจการภายในระหว่างกัน แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน  ไม่มีความหวาดระแวง  สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการที่จะก้าวเข้าไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน  และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน  ปัญหาทุกปัญหาถ้าสามารถคลี่คลายได้โดยหลักการที่ถูกต้องจะยั่งยืน  ถ้าใช้กำลังต่อกันจะไม่มีวันสิ้นสุด จะไม่เกิดความสงบสุขตามแนวชายแดน  แล้วคนที่เดือดร้อนคือประชาชน เพราะฉะนั้นเราต้องแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ต้องเตรียมการในทุกมิติ  วันนี้ร่วมมือกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด  และทุกหน่วยงานที่อยู่ตามพื้นที่ มีการพูดคุย มีการสร้างความเข้าใจ  ประชาชนต้องสร้างความเข้าใจว่าจะอยู่กันอย่างไรต่อไป

..............................................
          แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ 
สำนักงานเลขานุการกองทัพบก
ตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ให้ สลก.ทบ. ส่งคำสัมภาษณ์ ผบ.ทบ.ต่อสือมวลชน  เพื่อให้หน่วยใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และ ปชส. ในพื้นที่  และ ให้ ศทท.นำลงเว็บไซต์ ทบ.